ชัยชนะแบบคลีนชีทนัดแรกของปีศาจแดง

2ประตู ในครึ่งแรกของโรเมลู ลูกากู ทำให้เกมนี้เข้าทางปีศาจแดง และเก็บชัยชนะได้ตามต้องการ ถึงแม้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะโดนใบแดง ปอล ป็อกบาจะยิงจุดโทษไม่เข้า แต่ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ทำให้แฟนบอลมีความสุข พร้อมทั้ง เก็บ3คะแนน แบบไม่เสียประตูได้สำเร็จ

นี่คือบทสรุปจากเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา

#มูรินโญ่ เปลี่ยน 3ตำแหน่งจากเกมแพ้สเปอร์ส

ลินเดเลิฟ ยืนเซ็นเตอร์ แทน โจนส์ ที่บาดเจ็บ เฟลไลนี่ กับ อเล็กซิส ได้ออกสตาร์ทก่อน เอร์เรร่า และ เฟร็ด ลินเดเลิฟทำได้ดีอยู่แล้วกับเกมที่ไม่รวดเร็วมาก เมื่อเจอเบิร์นลี่ย์จึงเข้าทางเขา เฟลไลนี่เก็บลูกกลางอากาศได้หมด ตำแหน่งการยืนของเขาต่ำกว่ามาติชเสียอีก ส่งผลให้วันนี้มิดฟิลด์หัวฟู มีประโยชน์มากๆในเกมรับ มีจังหวะดึงเกม ช้าเร็ว ทำให้ทีมเก็บบอลตรงกลางได้เยอะ ส่วน อเล็กซิส ถึงแม้จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความขยันทุ่มเท และ มีส่วนร่วม กับ2ประตู ของยูไนเต็ด

#ลูกากูพลาดโอกาสทำเเฮตทริก

โรเมลู ลูกากู มีลุ้นเเฮตทริกตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก การทำ 2ประตู ด้วยลูกกลางอากาศ และ ลูกบนพื้น แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมจากการจบสกอร์ของเขาในเกมนี้ แต่น่าเสียดายที่ กองหน้าชาวเบลเยี่ยม ไม่สามารถจบเกมด้วยการได้ลูกบอลกลับบ้าน ถึงแม้จะมีโอกาสมากมายก็ตาม

 

#ปอลป็อกบาปิดเกมจากจุดโทษไม่ได้

ปอล ป็อกบา ได้สังหารจุดโทษด้วยสไตล์การยิงแบบเดิม คือ วิ่งเหยาะๆ ก่อนยิง โจ ฮาร์ท ไม่ล้มตัวไปก่อนที่ห้องเครื่องปีศาจแดงจะสับไก ทำให้เขาต้องยิง ในช่วงเวลาที่เท้าใกล้จะถึงบอลแล้ว และยิงได้ไม่มุมพอ บวกกับอดีตผู้รักษาประตู แมนฯ ซิตี้ พุ่งถูกทาง และปฏิเสธลูกนี้ไว้ได้ ฟอร์มโดยรวมของมิดฟิลด์แชมป์โลกถือว่าน่าพอใจ หากไม่นับการพลาดจุดโทษ เขาออกบอลยาวแม่นๆหลายครั้ง จ่ายบอลให้เพื่อนได้เปรียบ และเล่นเป็นธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น

 

#เบิร์นลี่ย์ไม่จัดหน้าคู่

เบิร์นลี่ย์ ขึ้นชื่อเรื่องฟุตบอลไดเร็ค แต่พวกเขาเลือกใช้ คริส วู้ด เป็นกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียว และ มีเจฟฟ์ เฮนดริก เป็นตัวสนับสนุน ในรายชื่อ 11 ตัวจริง ทำให้ครึ่งแรก เกมรุกเจ้าถิ่น ไม่ได้กดดันอะไรคู่เซ็นเตอร์อย่าง สมอลลิ่ง และ ลินเดเลิฟ มากนัก กว่าที่ ณอน ไดซ์ จะส่ง เเซม โวคส์ ลงสนามเกมก็ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ส่วน เเอชลี่ย์ บาร์นส์ กองหน้าอีกคน ก็ลงมาตอนเหลือ 10 นาทีสุดท้าย และมันก็สายเกินไปเสียแล้ว

#บทเรียนของหมายเลข10คนใหม่

ถ้าแรชฟอร์ดใจเย็นกว่านี้ซักนิด ไม่เอาศีรษะไปชนในลักษณะนั้น  หรืออาจจะแค่โต้เถียงด้วยคำพูดกับ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ แบ็คขวาเจ้าถิ่นที่เล่นนอกเกมใส่
เขาอาจจะแค่โดนเตือนหรืออย่างมากใบเหลือง แต่เมื่อควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ความซวยจึงบังเกิด น้องแรชโดนใบแดงโดยตรง เมื่อมองนาฬิกา เวลาในเกมเหลือเกือบ 20 นาที ถ้าหากทีมนำอยู่แค่ความห่างสกอร์เดียว หรือเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่านี้ ช่วงเวลาที่เหลือ เหล่าพลพรรคเร้ดอาร์มี่ คงจะต้องลุ้นหนักเพิ่มอีกเป็นกอง

#เดเคอายังคงยอดเยี่ยม

ถ้าเป็น เดเคอา สมัยมาเล่นที่อังกฤษใหม่ๆ เขาอาจจะโดนบททดสอบที่หนักหน่วงกว่านี้ไปแล้ว แต่เมื่อคืน มือ 1 ทีมชาติสเปน แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยม ในการออกมาตัดลูกกลางอากาศ ชนิดไม่พลาดแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังโชว์ซุปเปอร์เซฟช่วงท้ายเกมจากบอลโยนของเบิร์นลี่ย์ได้ด้วย เดเคอา เริ่มนับ1 การรักษาคลีนชีทบทเวทีพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลใหม่ได้สำเร็จ

#ปีศาจแดงขึ้นมาอยู่กลางตาราง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมทั้งขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 หลังผ่านการแข่งขัน 4นัด มี 6คะแนน ชนะ 2นัด แพ้2นัด แต่ประตูได้ลบเสีย ยังติดลบอยู่ 1 หลังยิงได้ 6 ประตู เสียไป 7 ประตู สัปดาห์ต่อไปเป็นโปรแกรมทีมชาติ ไม่มีพรีเมียร์ลีกแข่งขัน หลังจากนั้น ลูกทีมของมูรินโญ่ ต้องเจอกับศึกหนัก ในการบุกเยือน วิคาเรจ โร้ด พบ วัตฟอร์ด วันเสาร์ที่ 15 กันยายน เวลา 23.30 น.

#อ๋องแมนยูสู้ตาย #AongNattawit

#Dropballs

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.