ถึงแม้เราจะเจอกันช้าไป แต่ผมก็ภูมิใจที่เล่นได้เพื่อพวกคุณ – เอดินสัน คาวานี่

เอดินสัน คาวานี่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้เสียงชื่นชมมากที่สุดของปีศาจแดง ในฤดูกาลแรก ที่เขาค้าแข้งกับทีม 17 ประตู ที่ยิงเพื่อสโมสรที่เขารัก ความหลงใหลในฟุตบอล และสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ท่านนายพราน ร่วมพูดคุยกับแฟนบอลจากทั่วโลก เกี่ยวกับคำถามที่คุณอยากรู้ ติดตามไปกับบทสัมภาษณ์นี้

คำถามจากเซเลป (แอฟริกาใต้) : ใครคือคู่ต่อสู้ที่ยากที่สุดที่คุณเคยเผชิญหน้ามา?

“คุณอาจจะคิดได้ว่าผมเคยเล่นกับคู่ต่อสู้ที่แตกต่างกันมากมายมาแล้ว รวมไปถึงบรรดาคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งด้วย แต่ผมมักพูดเสมอว่า กองหลังที่ยากที่สุดที่ผมเคยต่อกรด้วย นั่นก็คือ “จอร์โจ้ คิเอลลินี่” ผมเจอกับเขามาหลายเกมอยู่เหมือนกัน ดังนั้นผมสามารถบอกคุณได้ว่าเขานี่แหละเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่ผมต้องเผชิญ”

คำถามจาก อาสรี่ย์ (มาเลเซีย) : หากคุณสามารถเล่นร่วมกับตำนานของยูไนเต็ดได้ในหนึ่งฤดูกาล นักเตะคนนั้นจะเป็นใคร และทำไม?

“ผมคิดว่าคันโตน่า จะเป็นนักเตะที่ผมอยากร่วมลงสนามด้วยมากที่สุด! นั่นเป็นเพราะบุคลิกของเขาและวิธีการใช้ชีวิตในอาชีพค้าแข้งฟุตบอลของเขา และอย่างที่ผมพูดไป บุคลิกของเขาในสนามนั้นมันสุดยอดมากๆ”

คำถามจาก หลุยส์ (สหราชอาณาจักร) : คุณเคยคิดที่จะตัดผมสั้นกว่านี้ไหม ?

“ตลกดี นี่เป็นคำถามที่ผมได้ยินบ่อยมากในหมู่เพื่อนและครอบครัวของผม เมื่อพวกเขาถามว่า คุณเคยเห็นตัวเองผมสั้นไหม ดังนั้นคำถามนี้จึงมักเกิดขึ้นเมื่อมีบทสนทนากับเพื่อนและครอบครัว”

“ผมเคยไว้ผมสั้นนะ จนกระทั่งอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ผมตัดสินใจไปมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย เพื่อเล่นฟุตบอล นั่นคือตอนที่ผมเริ่มปล่อยให้ผมยาวจนถึงทุกวันนี้แค่คิดก็เกือบ 20 ปีแล้วที่ผมไว้ผมยาว”

“อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ผมไม่รู้ว่าจะตัดมันให้สั้นกว่านี้ไหม ผมมองไม่เห็นเหตุผลที่จะทำอย่างนั้นเลย เพราะผมชอบไว้ผมยาวแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และผมก็นึกภาพตัวเองตอนผมสั้นไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆๆ”

“ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมคิดว่ามันมีอะไรให้ทำเยอะมาก และแม่ก็มักจะตัดผม ตอนไปโรงเรียนเสมอ และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีเหาขึ้นมา ผมไม่คิดว่าแม่ของผมอยากจะทำอย่างนั้นตลอดเวลาหรอกนะเพื่อจะขจัดมันออกไป! เธอก็เลยโกนหัวผมทิ้งไปดื้อๆอย่างนั้น ผมเดาว่านั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไว้ผมยาว เพราะผมไม่ชอบทรงนั้นเลยสักนิด ไม่ว่าจากนี้ต่อไปจนเมื่อผมแก่ตัวแล้วก็ตาม”

คำถามจาก เดวิน (สหรัฐอเมริกา) : คุณมีพิธีกรรมหรือความเชื่ออะไรก่อนเกมไหม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแมตช์การแข่งขันหรือไม่ และถ้ามี มันคืออะไรกัน ?

“ฟังนะ ผมไม่ใช่คนที่ ยึดติดกับพิธีกรรมจริงๆ สำหรับผมแล้ว พิธีกรรมที่สำคัญที่สุดที่ผมมี คือการรับรู้เกี่ยวกับตัวเองว่า ผมมีรูปร่างที่ดีที่สุด พิธีกรรมที่ดีที่สุดของผม คือการฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน ดังนั้นเมื่อถึงวันแข่งขัน ผมจะรู้สึกถึงความสงบและไอความสงบในตัวผม ผมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเกมการแข่งขันต่างๆนี้ และความท้าทายใหม่ๆที่รอผมอยู่ข้างหน้า บางครั้งผมก็ฟังเพลง หรือใช้เวลาคุยกับเพื่อนร่วมทีม เพ่งความสนใจไปที่เกมเสมอ แต่อย่างที่พูดไป ผมไม่ใช่คนที่ยึดถือกับพิธีกรรมมากมายซักเท่าไหร่ เพียงแค่ฝึกให้หนักทุกวันเพื่อให้พร้อมสำหรับช่วงเวลาแห่งความท้าทาย กำลังจะเริ่มต้นขึ้น”

คำถามจาก แองจี้ (มอลตา) : ท่าดีใจของคุณมันมีที่มาที่ไปอย่างไร?

“สวัสดีแองจี้ คุณสบายดีไหม? ผมหวังว่าคุณจะสบายดี ฟังนะ ผมเปลี่ยนท่าดีใจมาหลายครั้งแล้ว แต่ท่าดีใจล่าสุดนี้มาจากเมื่อผมเริ่มโตขึ้น และเริ่มเรียนรู้และได้รับความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่ย้อนไปเมื่อนานมาแล้ว มันมาจากประชากรของพวกเราชาวอุรุกวัย เพราะผมคิดและรู้สึกว่ามันเป็นการสืบเชื้อสายมาจากครอบครัวหลายชั่วอายุคน ผมมีรากฐานตัวผมเองมาจากสมัยนั้น ผมคิดว่าเวลาจะเฉลิมฉลองการทำประตู ผมจะเอาลูกศรออกแล้วยิงมัน นั่นเป็นเรื่องราวทั้งหมดเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะอธิบายได้ว่าลูกสาวของผมนั้นมีชื่อว่า “อินเดีย” ทุกอย่างมันจะเชื่อมโยงกันหมด ผมอธิบายให้คุณฟังหมดแล้วนะ”

คำถามจากปีเตอร์ (สหรัฐอเมริกา) คุณกำลังฝึกร้องเพลงเชียร์เพลงใหม่ของตัวเองอยู่หรือไม่

“นั่นเป็นคำถามที่ดีจริงๆ” คาวานี่กล่าว

“ตอนนี้แฟนๆ คิดเพลงที่สองได้แล้ว ซึ่งร้องยากกว่าเพลงที่แล้วมาก! ผมสามารถร้องตามเพลงแรกได้นะ ‘Give it, give it give, it to Edi Cavani…’ มันง่ายกว่า

และผมสามารถร้องเพลงนี้ได้ตามสถานที่ต่างๆ”

“ส่วนเพลงประจำตัวของผมเพลงที่ 2 นี้ ซึ่งก็เท่และดีมากๆเช่นกัน ต้องขอบคุณสโมสรแห่งนี้ที่ให้ผมได้ใช้เวลาอีกสักระยะนึงเพื่อขอบคุณแฟน ๆ ยูไนเต็ดทุกคน สำหรับความอบอุ่นและความเสน่หาของพวกเขา แต่บอกเลยว่า เพลงที่สองนี้ร้องยากกว่ามาก”

คำถามจาก ทาแรมดีป (ประเทศไทย) : อาหารอังกฤษที่คุณชอบคืออะไร?

“ ผมเป็นคนที่ชอบทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศของผมมาก และผมรู้ว่าตัวชอบอะไร ดังนั้นเมื่อคุณไปต่างประเทศ สิ่งที่คุณไม่อยากทิ้งไว้เบื้องหลังคือรากเหง้า วัฒนธรรม และอาหารของคุณ! ดังนั้นผมจึงพยายามกินอาหารสไตล์บ้านผม สำหรับอาหารอังกฤษ ผมไม่สามารถบอกให้คุณเห็นถึงสิ่งที่ผมชอบได้จริงๆ ผมคิดว่าเป็นเรื่องของผมที่มักจะพยายามทำอาหารอุรุกวัยกินเอง และเมื่อเราออกไปกินนอกบ้าน ก็พยายามไปที่ไหนสักแห่งที่อาหารค่อนข้างคล้ายกับที่เรากินที่บ้าน ”

คำถามจาก กราแฮม (สหราชอาณาจักร) : ถ้าคุณเล่นฟุตบอลไม่ได้ คุณอยากทำอาชีพอะไร?

“ ถ้าผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอล…ใครจะไปรู้ว่าชีวิตของผมจะเป็นอย่างไร! ผมคิดว่าผมอาจจจะทำงานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับชนบท งานบางประเภทที่ผมได้สัมผัสกับธรรมชาติและกลางแจ้ง ผมมั่นใจในเรื่องนี้มากเพราะตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ผมมีความสุขเสมอที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พื้นที่สีเขียว อากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับ สัตว์ต่างๆ และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ผมก็คิดอยู่เสมอ และสิ่งนี้ก็ไม่เคยออกไปในหัวจริงๆ ผมอาจกลายเป็นสัตวแพทย์ หรือเป็นวิศวกรการเกษตร ซึ่งผมคิดว่าผมจะได้ทำงานเกี่ยวกับในชนบทอย่างแน่นอน ”

คำถามจากฟรานโคเลน (แอฟริกาใต้) : คุณชอบถูกเรียกว่า El Matador ใช่ไหม?

“ ครั้งแรกที่ผมได้รับฉายามาธาดอร์ มันคือช่วงที่ผมค้าแข้งในอิตาลี ตอนผมเซ็นสัญญากับนาโปลี และชื่อเล่นนั้นติดอยู่กับผมตลอดอาชีพค้าแข้งที่เหลือ และผมคิดว่าถ้าแฟนบอลพูดชื่อ เอล มาตาดอร์ จะจำผมได้ ผมคิดว่าพวกเขามอบสิ่งที่มีค่าให้กับผมนะ เพราะตอนที่ผมมานาโปลีครั้งแรก สิ่งต่างๆ กำลังไปได้สวย ผมเริ่มยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ ทีมของเราในตอนนั้นเริ่มเก็บชัยชนะมากขึ้น พวกเขาจึงเรียกผมว่าเอล มาทาดอร์ แน่นอนว่ามาทาดอร์ คือคนที่ทำให้การต่อสู้กับวัวกระทิงจบลง ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถโต้เถียงกับสิ่งที่แฟนๆ มอบให้ได้กับฉายานี้ ตั้งแต่ย้อนกลับไปจวบจนปัจจุบัน ชื่อเรียกนี้ยังคงอยู่กับผมเสมอมา ”

คำถามจากอาเดรียน (มาเลเซีย) : ประตูที่ดีที่สุดที่คุณเคยทำได้?

“ คุณกำลังถามผมว่า ประตูไหนดีที่สุดเท่าที่ผมเคยยิงมา ประตูทั้งหมดที่ผมทำได้ มันมีประตูที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่หลายลูกด้วยกัน และยังมีลูกที่สำคัญด้วย แต่สำหรับผมแล้ว มีลูกนึงที่โดดเด่นและสำคัญที่สุด มันเป็นประตูแรกที่ผมเคยทำได้ในอิตาลีหลังจากที่ผมยิงใส่ปาแลร์โม่ เพราะมันมีเรื่องราวเบื้องหลังมากมาย ไม่ใช่แค่การทำประตูเท่านั้น ผมจะบอกพวกคุณเกี่ยวกับวันนั้น! เรามีผู้เล่นที่ถูกไล่ออก และตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ในแผนของโค้ชเลย กองหน้าของเราในเวลานั้นไม่ได้ลง เนื่องจากเขาป่วย ดังนั้นพวกเขาจึงโทรมาหาผมที่บ้านเพื่อขอให้ผมร่วมฝึกซ้อมกับทีมและผมอยู่บนม้านั่งสำรอง ตอนนั้นผู้ช่วยโค้ชเป็นคนตัดสินใจส่งผมลงสนาม

พวกเราเหลือผู้เล่นสิบคน ดังนั้นผมมีโอกาสลงเล่นโดยเหลือเวลาเพียง 20 นาที และผมก็ทำประตูได้ มันคือประตูที่ดีที่สุดและสำคัญที่สุดสำหรับผมส่วนตัวนะ เพราะมันเป็นประตูแรกของผม และประตูที่พาผมสู่โลกใบใหม่ สำหรับผมแล้ว ฟุตบอลยุโรปเป็นที่ที่ผมต้องการอยากจะมาค้าแข้งและทุ่มเทให้ดีที่สุดมาตลอดเวลา และด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนั้น มันคือประตูที่สำคัญที่สุดสำหรับผม ”

คำถามจากเจค (อังกฤษ) : ช่วงเวลาไหนที่คุณชอบที่สุดในสีเสื้อปีศาจแดง ?

“ ผมคิดว่าการสวมเสื้อของสโมสรนี้มีความหมายมาก มันเติมความภาคภูมิใจให้ในทุกๆวัน และทำให้ตัวเองมีความภาคภูมิใจในทุกเกมที่ลงเล่น

ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ ผมไม่สามารถบอกคุณได้เกี่ยวกับช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง เพราะผมมีโอกาสสนุกเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาต่างๆ มากมายที่สโมสร การทำประตู การคว้าชัยชนะในแต่เกม

อย่างที่พวกคุณทราบ ผมต้องเล่นในรอบชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และมันไม่ได้กลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา แต่ที่มาของความภาคภูมิใจและความสุขที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผมก็คือ

การมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้จริงๆ “

คำถามจาก โมทูซี่ (บอสวานา): สิ่งสำคัญใดบ้าง ที่คุณอยากฝากถึงนักเตะที่ต้องการเป็นกองหน้า?

“ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับบรรดากองหน้ารุ่นใหม่ หรือแข้งดาวรุ่งที่ต้องการเล่นในแนวรุก มันไม่ได้มีไว้สำหรับผู้เล่นแนวรุกเท่านั้น แต่สำหรับนักกีฬาโดยทั่วไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักฟุตบอล คือการมีสัญชาตญาณมากกว่า มันจะช่วยให้คุณอ่านเกมได้ในหลายๆครั้ง ช่วยให้คุณคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และนี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังลงเล่น เพราะคุณจำเป็นต้องพร้อมจริงๆ สำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป นี่มันอาจจะเป็นเพียงทริคเล็ก ๆน้อยๆ ของกีฬาฟุตบอล และ ความนึกคิดที่ดี เป็นผลบวกอย่างแท้จริงสำหรับกองหน้าเพราะคุณจำเป็นต้องมีสมาธิจดจ่อ และพยายามนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อที่คุณจะได้สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวครั้งต่อไป เช่นการชิงจังหวะไปอยู่ข้างหน้าคู่ต่อสู้โดยตรง แม้ในเพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็ตาม สิ่งนี้จะช่วยคุณสามารถพูดได้เต็มปากว่า มันคือการหาพื้นที่ที่คุณสามารถมีโอกาสทำประตูได้ และต่อจากนี้คุณก็ยังต้องซ้อมหนักมากๆเช่นกันนะ คุณต้องฝึกฝน ฝึกฝนมันอยู่อย่างนั้น ทำงานหนักและพากเพียรต่อไป นั่นก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากเช่นเดียวกัน ”

คำถามจากพิธีกร

สุดท้ายนี้ คุณมีข้อความอะไรอยากฝากไปถึงแฟน ๆ แมนฯ ยูไนเต็ดหรือไม่?

การได้เล่นท่ามกลางแฟนบอลเต็มสนามในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มันคือความฝัน ที่ผมเฝ้ารอ และมันคงจะเหลือเชื่อมากๆ กับบรรยากาศเหล่านั้น

เป็นสิ่งที่คุณต้องการจะสัมผัสและดื่มด่ำไปกับมัน ผมหมายถึงทุกคนในสโมสรและแฟนบอล เพื่อมาร่วมสร้างความทรงจำที่ดี และมันจะเป็นความทรงจำที่ตราตรึงในหัวใจของพวกเราตลอดไป

แม้นายจะเพิ่งเข้ามาอยู่กับทีม แต่ความมุ่งมั่น การทำงานหนัก และทุ่มเทเพื่อสโมสรแห่งนี้ นายไม่เคยเป็นสองรองใคร ขอบคุณที่นายทำเต็มที่เพื่อพวกเราเสมอมา โพสนี้เพื่อกองหน้าของพวกเรา

#เอดินสันคาวานี่

#อ๋องแมนยูสู้ตาย #ADMINIKKYU

#แมนยูสู้ตาย #แมนยู #แมนยูไนเต็ด #เอดินสันคาวานี่

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.