ตระกูลเกลเซอร์เป็นปลิงสูบเลือด แมนฯยู จริงหรือไม่

เดอะ การ์เดี้ยน สื่อยอดฮิตของอังกฤษตีแผ่อีกหนึ่งปัญหาของแมนฯยูไนเต็ด นั่นคือเรื่องราวของตระกูลเกลเซอร์ที่ดูดเงินจากสโมสรไปแล้วกว่าพันล้านปอนด์

มีการระบุว่า กลุ่มทุน อาบูดาบี ที่เทคโอเวอร์ แมนฯซิตี้ ตั้งแต่ปี 2005 ลงทุนกับทีม “เรือใบสีฟ้า” ไปกว่าพันล้านปอนด์เช่นกันแต่เขานำที่ปรึกษาทางธุรกิจฟุตบอลมาช่วยบริหารวางโครงสร้างจนประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสถานศึกษา , ที่อยู่อาศัย และอะคาเดมี่ฟุตบอลสำหรับเยาวชนซึ่งเป็นไอเดียทางธุรกิจของพวกเขาเอง

ย้อนกลับมาดูที่ “ปีศาจแดง” เองพวกเขาต้องปวดหัวกับรายจ่ายไม่เว้นแต่ละวันแม้จะมีเงินจากสปอนเซอร์เข้ามาก็ตามอย่างสัปดาห์ล่าสุดสโมสรมีการประกาศตัวเลขรายรับที่ 590 ล้านปอนด์แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องนำมาปรับโครงสร้างหนี้ที่ เกลเซอร์ ยังติดธนาคารเอาไว้ถึง 487 ล้านปอนด์ ซึ่ง เอ็ด วู้ดเวิร์ด รีไฟแนนซ์หนี้อีกจำนวน 525 ล้านปอนด์ซึ่งรวมถึงจำนวนเงินก้อน 275 ล้านปอนด์ที่กู้มาพร้อมกับดอกเบี้ยมหาศาล 14.25 เปอร์เซนต์และมีโอกาสที่จะสูงขึ้นไปอีก

เท่านั้นยังไม่พอเพราะสโมสรต้องจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นของตระกูลเกลเซอร์รวมตกปีละราว 18-23 ล้านปอนด์ และเงินเดือนให้กับผู้บริหารระดับสูงของสโมสร (รวมทั้งตระกูลเกลเซอร์ด้วย) กว่า 11-13 ล้านปอนด์

การ์เดี้ยนพยายามจะสื่อว่าขณะที่ผู้บริหาร ยูไนเต็ด ดูดเงินรายได้จากสโมสรไปทุกปี แต่ ชีค มันชูร์ ของแมนฯซิตี้ ทุ่มเงินก้อนเดียวกว่า 1.3 พันล้านปอนด์แต่บริหาร “เรือใบสีฟ้า” จนมีระบบการเงินที่มั่นคงกว่า ยูไนเต็ด ไปแล้ว หลังเข้ามาบริหารงานแค่ 13 ปีเท่านั้น

#dropballs

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.