เปลี่ยนทีมของโซลชา-เป็นอาวุธหาญกล้าในการถล่มประตู

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2019 พลพรรคเร้ดอาร์มี่กำลังฮึกเหิมสุดๆ กับการคว้าชัยชนะเป็นว่าเล่นภายใต้กุนซือชั่วคราวในตอนนั้นอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พร้อมทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่นั่นก็เหมือนโปรโมชั่นของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน เพราะทุกอย่างค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนเดิมเหมือนที่แฟนๆคุ้นเคยกับภาพเกมรับอันเปื่อยยุ่ย ความผิดพลาดรายบุคคล นักเตะคนสำคัญฟอร์มตก และ การจัดตัวเเบบมีกังวัลของผู้จัดการทีม มาพร้อมคำถามที่ว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นวัฏจักร กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอีกนานแค่ไหนและจะมีทางแก้หรือไม่ เพื่อทำให้สาวกที่อุทิศหัวใจให้ผีแดงได้กลับมามีชีวิตชีวาและลุ้นแชมป์กับเขาอีกครั้ง การรอคอยความสำเร็จมันดูห่างไกลออกไปทุกที แต่ทำยังไงได้ ยูไนเต็ดคือส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเราไปแล้ว ต่อให้เจ็บซักกี่ครั้ง แฟนพันธุ์แท้อย่างพวกคุณ ก็เอาเลือดปีศาจแดงออกจากตัวไม่ได้ ผมเชื่อแบบนั้น ปัญหาของยูไนเต็ดคืออะไร และ สโมสรควรหาทางออกแบบไหน ติดตามอ่านได้ต่อจากนี้ครับ

#ความจับฉ่ายของเซ็นเตอร์และแบ็ค

ที่ต้องใช้คำว่าจับฉ่าย เพราะมันคือปัญหาที่แท้จริงในมุมมองผมครับ หายากเหลือเกินในโลกฟุตบอลที่จะมีนักเตะที่เล่นได้หลายตำแหน่งและเล่นดีทุกตำแหน่งที่ผู้จัดการทีมส่งลงสนาม นี่คือปัญหาใหญ่ของยูไนเต็ดจุดแรก เเอชลี่ย์ ยัง ไม่ใช่แบ็คอาชีพ แต่โดนจับมาเล่นแบ็คตั้งแต่ยุค หลุยส์ ฟานกัล ซึ่งบทบาทนี้ควรจะจบไปตั้งแต่ อาจารย์หลุยส์ อำลาทีมไปแล้ว แต่ โจเซ่ มูรินโญ่ กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ยังคงใช้ต่อมา นำมาซึ่งความผิดพลาดต่างๆนานา ทั้งการครอสบอล ไม่เข้าเป้า เสียบอล โดนใบแดง และอีกมากมาย

ไหนจะคู่หูคู่ฮา ฟิล โจนส์ และ คริส สมอลลิ่งอีก ที่เล่นดี 1 นัด เล่นพลาด 2นัด สลับกันไป ทั้งสองคนไม่ใช่ดาวรุ่ง และคงจะพัฒนาอีกไม่ได้แล้ว มาร์กอส โรโฮ เป็นอีกคนที่เข้าข่ายนักเตะจับฉ่าย เพราะบางทีก็ต้องเล่นเซ็นเตอร์ หรือ แบ็คซ้ายในบางเกม การยืนตำแหน่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับแบ็คอาร์เจนไตน์รายนี้ เอริค ไบญี่ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เป็นเซ็นเตอร์แบ็คอาชีพ ตำแหน่งที่เขาทั้งสองคนทำได้ดีที่สุดคือกองหลังตัวกลาง ไบญี่ ถูกจับไปเล่นแบ็คขวาเกมเจอเปเเอสเช ในนัดที่ 2 ลินเดเลิฟโดนไปอีกคน เกมแพ้ บาร์เซโลน่า การซื้อเซ็นเตอร์ และ แบ็ค เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ที่ยูไนเต็ดควรทำเพื่อเพิ่มคุณภาพของทีม ใครใช้ไม่ได้ขายเอาเงินมาทำทุนซื้อคนใหม่ ไม่ใช่สร้างผู้เล่นจับฉ่ายขึ้นมาเรื่อยๆ

“นักเตะทุกคนควรได้เล่นตำแหน่งที่ถนัด เพื่่อประโยชน์สูงสุดของทีม”
“นักเตะจับฉ่ายมีได้ แต่ควรใช้เพื่อเเก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ใช่ใช้เป็นแกนหลักในเกมสำคัญ หรือเปลี่ยนทีมหากมีผู้เล่นที่เหมาะสมกว่า”

 

#การตัดเกมแบบดุดันวิ่งไล่บี้จนคู่แข็งต้องยำเกรง

มิดฟิลด์ตัวรับ เป็นคีย์แมนสำคัญมากๆในการเล่นฟุตบอลระดับสูง จะสังเกตุเห็นว่าทีมชั้นนำทุกทีมมีผู้เล่นตำแหน่งนี้ยืนหยัดทั้งฤดูกาลแทบไม่เปลี่ยน ยูไนเต็ดส่ง เนมันย่า มาติช เข้าประกวด กับความเชื่องช้าที่มาพร้อมการขึ้นเกม 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถ้าเปรียบกับรถยนต์ หลายๆท่านอาจแย้งว่า สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ถูกดันขึ้นมาเป็นตัวแทนแล้ว ไหนจะเฟร็ดอีก ผมขอถามกลับครับ ถ้า สก็อต แม็คโทมิเนย์ หรือ เฟร็ด ที่ยังมีปัญหากับบอลจังหวะสองอยู่ เกิดเจ็บไป คุณจะเห็นภาพเหมือนผมหรือไม่ ที่กองกลางแมนฯยู ในยุคมูรินโญ่ใช้ ป็อกบา และ มาติช ยืนคู่กันในแผน 4-2-3-1 ทุกทีมจะใช้การเพรซซิ่งใส่สองคนนี้จนเล่นไม่ออกเหมือนหลายๆเกมในช่วงนั้น

เชื่อว่า แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ยังอยู่ในแผนการสร้างทีมระยะยาวของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่การจะทำให้แดนกลางมีความสมดุลและดุดัน จำเป็นต้องมีผู้เล่นแนวฮาร์ทแมน ขยันวิ่ง แบบที่ยูไนเต็ดเคยมีรอย คีน หรือ อาร์เซน่อล มีปาทริค วิเอร่า อาจไม่ต้องโหดถึงขั้นนั้น แต่แสดงให้เห็นว่าแดนกลางของปีศาจแดงเป็นทีมที่จะมาเจาะใส่ง่ายๆไม่ได้ ผมก็พอใจแล้ว

“กองหลังและผู้รักษาประตูมีหน้าที่ป้องกันด่านสุดท้ายและรองสุดท้ายก่อนคู่ต่อสู้ยิงประตูฉันใด”
“มิดฟิลด์ตัวรับก็คือคนที่ควรดีเลย์และเเบ่งเบาภาระกองหลังและนายด่านฉันนัน”

 

#โอกาสยิงจะเยอะน้อยไม่สำคัญอยู่ที่คุณเปลี่ยนมันเป็นประตูได้หรือเปล่า

กองหน้า ชื่อบ่งบอกอยู่แล้วว่า อยู่หน้าสุด ก็คือไว้ยิงประตูนั่นเอง กองหน้าบางคนทั้งเกมแทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย แต่เมื่อได้โอกาสเพียงครั้งเดียวก็นำมาซึ่งประตู ที่พิมพ์มาทั้งบรรทัด เพื่อจะบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของกองหน้า คือ การยิงประตู ไม่เเปลกที่แฟนๆยูไนเต็ดจะพูดถึง รุด ฟาน นิสเตลรอย หรือ เอริค คันโตน่า กันบ่อยๆ ก็เพราะพวกเขาทั้งสองทำได้แบบที่ว่าจริงๆ คือยิงเป็นเข้า หรือถ้าไม่เข้าก็มีเปอร์เซ็นต์ได้ลุ้น ส่วนการพักบอล สปีดความเร็ว เลี้ยงบอลติดเท้า เป็นแค่ออฟชั่นเสริมเท่านั้นในมุมมองผม ถ้ามีก็เป็นสิ่งทีดี ไม่มีก็ไม่ได้เเปลว่ากองหน้าคนนั้นจะเป็นกองหน้าที่ไม่เก่ง คราวนี้มาดูกองหน้าที่ยูไนเต็ดมี คือ ลูกากู แรชฟอร์ด มาร์กซิยาล อเล็กซิส ความคมทั้งสี่คน ยังไม่อยู่ในระดับที่ไว้ใจได้ระยะยาว อาจจะมีช่วงที่ฟอร์มดีบ้าง แต่เมื่อบาดเจ็บหรือขาดความมั่นใจพวกเขายังยืนระยะแบบต่อเนื่องไม่ได้ ลูกากููมีรูปร่างสูงใหญ่เก็บบอลได้ถือเป็นออฟชั่น แรชฟอร์ดมีความเร็วสปีดต้นดีถือเป็นออฟชั่น มาร์กซิยาลเลี้ยงบอลติดเท้าก็ถือเป็นออฟชั่น

ส่วนอเล็กซิสแฟนเพจบางท่านอยากให้โอกาสเขาอีกซักหน่อย หรือบางคนบอกขายไปเถอะค่าเหนื่อยแพง ผมเคารพความเห็นของทุกท่าน แต่อเล็กซิสก็ยังไม่เข้าสเปคคำจำกัดความของกองหน้าในแบบที่ต้องการอยู่ดี หวังวาทีมจะหา รุด ฟาน นิสเตลรอย หรือ เอริค คันโตน่า ในปี2019 เจอโดยเร็ว และ มาผลิตสกอร์ให้ทีมแบบเป็นกอบเป็นกำนะครับ

“การพักบอลได้ มีสปีดต้นที่เร็ว เลี้ยงบอลติดเท้า เป็นแค่ออฟชั่นเสริมของกองหน้า”
“แต่หน้าที่ของกองหน้าคือมีไว้ยิงประตู ต่อให้คุณจะแทบไม่มีออฟชั่นที่ว่ามาเลยก็ตาม”

 

#สโมสรก็เหมือนบ้านบอร์ดบริหารคือหัวหน้าครอบครัว

สโมสรคือองค์กรใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจเพื่อเม็ดเงิน เพื่อแฟนบอล เพื่อเจ้าของทีม หัวหน้าครอบครัวของยูไนเต็ดตอนนี้ คือ ตระกูล เกลเซอร์ และ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ที่แฟนๆส่ายหน้าทุกครั้งเมื่อเอ่ยชื่อ เราไม่สามารถบอกให้เกลเซอร์ขายสโมสรได้ และ วู้ดเวิร์ด คงจะอยู่ขวางหูขวางตาต่อไป แฟนบอลต้องทำใจและเดินหน้าตามวิธีทางของฟุตบอล

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเอ็ด เก่งจริงเรื่องการหาเงินเข้าสโมสร ทั้งสปอนเซอร์ต่างๆ พร้อมสร้างกำไร เข้ากระเป๋าตระกูลเกลเซอร์แบบเน้นๆ แต่เอ็ดก็ห่วยจริงเช่นกัน เรื่องการดีลนักเตะ รวมถึงปัญหาสัญญา ดาบิด เดเคอา ฆวน มาต้า และ อันเดร์ เอร์เรร่า ผู้ชายที่ชื่อ เอ็ด วู้ดเวิร์ด มีส่วนต้องรับผิดชอบในปัญหานี้

ข่าวแต่งตั้งผู้อำนวยการกีฬามีมานานนับปี แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ความหวังลึกๆของเหล่าพลพรรคเร้ดอาร์มี่ คือ การแต่งตั้งผู้อำนวยการกีฬา ที่รู้เรื่องฟุตบอลจริงๆ เข้ามา และ คานอำนาจกับเอ็ด วู้ดเวิร์ด ถ้าวันนั้นมาถึงสโมสรจะเดินหน้าเป็นเท่าตัวแบบเต็มกำลัง ทำให้บ้านและครอบครัวแห่งนี้ มีโครงสร้างและเสาเข็มที่แข็งแกร่งกว่าเดิมพร้อมต่อสู้กับทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆแบบไม่ต้องเกรงกลัวแน่นอน

“คุณไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกๆเรื่อง เพราะยังมีคนที่พร้อมช่วยคุณในเรื่องที่คุณไม่เก่ง”
“ไม่ผิดถ้ามีหลายคนช่วยกันสร้างมันขึ้นมา แต่ผิดแน่ๆถ้าคุณปล่อยให้มันพังทลายอย่างช้าๆเงียบๆเพียงคนเดียว”

ให้กำลังใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเชื่อมั่นต่อไปนะครับ อาจจะมีช่วงดีบ้างร้ายบ้าง แต่มันคือบททดสอบของการไปสู่เป้าหมายอย่างยั่งยืน

“ความเท่ที่แท้จริงไม่ได้มาจากการส่งเสียงเชียร์เต็มกำลัง แต่เกิดจากความมุ่งมั่นรอดูทีมรักประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิใจ”

#อ๋องแมนยูสู้ตาย

#Dropballs

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.