แมนฯ ยูไนเต็ด คือ ชีวิตของผม

 

ผมจำได้ไม่ชัดนักว่าผมเริ่มดูฟุตบอลจริงจังได้อย่างไร แต่ที่จำได้ขึ้นใจคือ คุณพ่อผมเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมรับรู้สิ่งนี้ตั้งแต่จำความได้ สิ่งหนึ่งที่ท่านจะมีกลับบ้านมาเป็นประจำ คือนิตยสารฟุตบอล สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อเห็นหนังสือเหล่านี้ ผมจะขอท่านตัดหรือดึงหน้าที่เป็นโปสเตอร์นักเตะเก็บไว้เพื่อติดในห้องนอน แม่เล่าให้ฟังว่า ตอนผมยังเล็กมาก ผมเคยดึงรูปนักเตะของ วูล์ฟเเฮมปตัน ทรงผมสกรีนเฮดมากราบ เพราะคิดว่าเป็นพระ หลังจากพ่อแม่พาไปเที่ยววัด นี่คือความทรงจำแรกที่ผมมีต่อฟุตบอล จากคำบอกเล่าของคุณพ่อและคุณแม่ และหลังจากนั้นไม่นานผมก็ขายวิญญาณให้ “ปีศาจแดง “

#รักแรกและรักเดียว

ย้อนกลับไปในคืนวันที่ 26 พฤษภาคม 1999 ซึ่งเป็นค่ำคืนที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล ผมตื่นมากลางดึก เนื่องจากได้ยินเสียงดังจากอีกห้อง จึงเปิดเข้าไปดู เห็นคุณพ่อกำลังส่งเสียงดัง เฮลั่นบ้าน พร้อมกับ เครื่องอัดวีดีโอเพื่อบันทึกเกมการแข่งขัน ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ลีก ในปีนั้น พ่อผมบอกว่า ” แมนฯยูทำได้ ลูก แมนฯยูทำได้ ” พูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ เกมนั้นแมนฯยู พลิกกลับมาชนะแบบปาฏิหารย์ ค่ำวันเดียวกัน ผมได้ดูไฮไลท์ประตูของ เท็ดดี้ เชอร์ริงเเฮม และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบในทีวี เมื่อคืนนั้นกำลังจะผ่านไป ผมจึงตัดสินใจแบบจริงจังว่าผมจะเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยความซื่อสัตย์ ภักดี และมีความสุขไปด้วยกันกับพ่อ นอกจากการดูฟุตบอลจะเป็นเวลาที่มีความสุขแล้ว ยังเป็นเวลาของครอบครัวเราด้วย เพราะคุณแม่และน้องสาวก็จะเข้ามาร่วมวงอยู่เป็นประจำ


#ช่วงเวลาเเห่งความสุข

ช่วงปิดฤดูกาล เดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคมเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆ สำหรับคอบอลผีแดงอย่างผม หลายๆท่านบอกว่า ยังมีบอลทีมชาติไง ผมต้องเรียนตามตรงว่า ผมไม่อินกับบอลทีมชาติ และไม่มีทีมชาติที่เชียร์เลย นอกจากทีมชาติไทย เพราะสโมสรเดียวที่ผมเชียร์ คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ช่วงเวลา 2-3เดือนนั้น เป็นช่วงเเห่งการสะสมวีดีโอ หรือต่อมาเป็นซีดี สมุดภาพ และของที่ระลึกสโมสร การได้ย้อนกลับไปดูวีดีโอเก่าๆ การยิงประตูสวยๆ เป็นอะไรที่มีความสุขมากและฆ่าเวลาได้ดี ตามประสาเด็กน้อยที่ชอบแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นชีวิตจิตใจ ประตูที่ผมชอบมากที่สุด และ เห็นบ่อยที่สุดในวีดีโอสมัยนั้นของปีศาจแดงคือ ลูกเอียงตัวยิงของ เอริค คันโตน่า ในเกม ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ศึก เอฟเอ คัพ ปี 1996 ประตูของ “เดอะ คิง” เกิดขึ้นช่วงท้ายเกม นาที 86 ท่ามกลางแฟนบอลในเวมบลี่ย์ กว่า 79000 คน ซึ่งเยอะมากๆในสมัยนั้น ฤดูกาลดังกล่าว ยูไนเต็ดจบด้วยดับเบิ้ลแชมป์ ได้ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ หลังฤดูกาลก่อนหน้าไม่ได้ถ้วยติดมือ เสียแชมป์พรีเมียร์ลีก ให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ ฤดูกาล 1994/1995

#นักเตะในดวงใจ

ผมชื่นชอบ พอล สโคลส์ เป็นชีวิตจิตใจ จากเอกลักษณ์ในการวางบอลยาวที่แม่นยำ ลูกบู๊ดุดัน เคียงข้าง รอย คืน เป็นคู่มิดฟิลด์ที่ครบเครื่องที่สุด ภาพจำในจังหวะวอลเล่ย์แบบไม่ต้องจับ และ การซัดไกล จากนอกกรอบเขตโทษ หรือแม้กระทั่งลูกเปิดเตะมุมจากเบ็คเเฮม ให้สโคลส์ได้ซัด ยังเป็นภาพติดตาตรึงใจของผมจนถึงทุกวันนี้ สโคลส์ เล่นด้วยมันสมองมากกว่าพละกำลัง แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ใช้พลังเลย สิ่งที่แสดงออกมาในสนามทั้งจังหวะเลือกช็อตยิง การเล่นเป็นทีม ล้วนเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบมาก ซึ่งหาได้ยากมากๆแล้วสำหรับนักเตะปัจจุบัน

#หัวใจเต้นแรงและสูบฉีด

จาก “ความหวัง และ ศรัทธา” ที่ทีมเอาตัวรอดได้ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อสกอร์ตามหลังหรือเมื่อต้องการชัยชนะ จากสถานการณ์ที่กำลังจะเสมอ เมื่อทำได้เรื่อยๆ มันจึงกลายเป็น “คาแรคเตอร์” สิ่งเหล่านั้น ถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จาก เอริค คันโตน่า ดไวท์ ยอร์ค แอนดี้ โคล เป็น รุด ฟาน นิสเตลรอย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เวย์น รูนี่ย์ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จนถึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ระยะเวลาผ่านไป จนมาถึงแมตช์ที่ผมดูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลงแข่งขันและมีหัวใจเต้นแรงและสูงฉีดมากที่สุด คือเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่พบกับ เชลซี เมื่อปี 2008

ทุกครั้งที่ทีมได้เข้าชิงชนะเลิศรายการใดรายการหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่พิเศษเสมอ ความทรงจำครั้งเมื่อปี 1999 ฉายย้อนกลับมาอีกครั้ง ผมอยากกลับไปสัมผัสกับช่วงเวลาที่ทีมเฮดังลั่น ทุกคนส่งเสียงร้องเพลง เมื่อเอาชนะคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนกับที่เคยทำได้กับ บาเยิร์น มิวนิค

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งให้ยูไนเต็ด นำไปก่อน แต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงตีเสมอในเวลาต่อมา จากนั้นครึ่งหลังทำอะไรกันไม่ได้ มีใบแดงของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ช่วงต่อเวลา กระทั่งช่วงยิงจุดโทษตัดสิน ผมลุ้นจนขยับไม่ได้ เเอร์ก็เย็น ปัสสาวะก็ปวด แทบไม่มีแรงจะตะโกนเชียร์เมื่อโรนัลโด้ยิงติดเซฟ จนถึงคนสุดท้ายของเชลซี กัปตัน เจที จอห์น เทอร์รี่ ค่อยๆเดินเอาบอลมาวาง และเผชิญหน้ากับเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ถ้ายิงเข้า เชลซีจะเป็นแชมป์ ผมได้แต่หวังลึกๆ ว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่จะหยุดลูกนี้ “ได้โปรดเถอะ”


ทันที่ที่บอลชนเสา ทุกคนกลับมามีความหวังอีกครั้ง แฟนบอลก็เช่นกัน ผมยังไปปัสสาวะไม่ได้ แม้จะปวดแค่ไหนก็ตาม สายตาเริ่มมุ่งมั่น จดจ้องไปที่ทีวีแบบไม่กระพริบ และหัวใจเริ่มเต้นแรงมากขึ้น เลือดสูดฉีดเต็มกำลัง กระทั่ง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดลูกยิงของนิโกล่าส์ อเนลก้า ได้ นั่นคือวินาทีที่คำว่าศรัทธา ในการเชียร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของผมถูกกลั่นออกมาถึงขีดสุด และสัมผัสได้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปตราบนานเท่านาน

#แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคือชีวิต

ตั้งแต่เด็กจนเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมไม่เคยคิดว่าผมจะได้ทำงานเกี่ยวกับฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับทีมที่รักอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ผมได้รู้จักกับคุณ แนท ดูบอลกับแนท แบบไม่น่าเชื่อ และทราบตั้งแต่พบกันครั้งแรกว่าเขาชื่นชอบ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นชีวิตจิตใจ หลังจากนั้นเราก็สร้างหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกัน ในเรื่องของคอนเท้นต์ฟุตบอล ร่วมทุกข์ร่วมสุข ตั้งแต่ เพจ บอลไม่ตุ๊ด ฟุตบอลไม่ตุ๊ด จนมาเป็น ดูบอลกับแนท และ แมนยู สู้ตาย ในวันนี้ ผมโชคดีที่ได้รับโอกาส จากTrue Sport Network ในเครือ TrueVision ในฐานะ Influencer Manchester United ได้ทำงานในสิ่งที่รัก ทั้งงานวีดีโอ งานผลิตคอนเท้นต์ต่างๆ ซึ่งไม่เคยคิดเลยว่า ทีมฟุตบอลทีมหนึ่งที่ผมชอบจะกลายเป็นงานที่ส่งข้อมูลและมอบสิ่งดีๆมีประโยชน์ไปหาผู้คนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ได้มากขนาดนี้ ขอบคุณ แนท เพื่อนคู่หู และ ผู้ใหญ่ในทรูวิชั่นทุกคนที่ให้โอกาสครับ

นับว่าผมได้โชคดีมากๆ ที่ได้อยู่กับงานที่รักในทุกวัน แม้จะมีงานอื่นที่ต้องทำมากมาย แต่การได้ชมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเตะ เหมือนเป็นการพบปะกับครอบครัวทุกสัปดาห์ หากไม่เจอกันเหมือนในสัปดาห์นั้นมันไม่สมบูรณ์

ทุกครั้งที่คุณใช้เวลากับครอบครัว คงไม่ได้มีความสุข มีรอยยิ้มสดใสตลอด แต่ “คำว่าครอบครัว” คือส่วนหนึ่งของชีวิต ผมรับได้เสมอหากครอบครัวของผมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีปัญหาบ้าง ไม่มีความสุขเหมือนหลายปีก่อน หรือทำให้ใครบางคนเสียใจ ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ผมต้องอยู่เคียงข้างครอบครัวของผม ทีมของผม และสิ่งที่ผมรัก

แม้ครอบครัว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเต็มไปด้วยปัญหามากมาย ไม่ใช่ ยูไนเต็ดที่ยิ่งใหญ่เหมือนวันวาน แต่ยังเป็นบ้านที่ยิ่งใหญ่หลังเดิม หลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วย “ศรัทธา พลัง และ ความหวัง”

แม้บ้านหลังนี้จะถูก “เพื่อนบ้านที่รัก” ค่อยๆบดบังเข้าเสียแล้ว และถึงแม้เวลานี้บ้านหลังนี้ จะใหญ่โตสู้บ้านนึงไม่ได้ แต่ผมก็ยังภูมิใจที่เลือกอาศัยอยู่ในบ้านหลังที่มีชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราต้องมาพบเจอกับเพื่อนบ้านปีละ 2 ครั้ง เราจะแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ทุ่มเท และ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เป็นธรรมดาที่ต้องมีชนะบ้าง แพ้บ้าง หรือเสมอบ้าง แต่เมื่อบ้านทั้งสองหลัง ต่างรอคอยวันนั้น วันที่จะต้องดวลกัน มันเป็นวันที่ศรัทธาอันแรงกล้าของทั้งคู่ พุ่งถึงขีดสุด

เพื่อนบ้านที่ชื่อว่า ลิเวอร์พูล คือเพื่อนบ้านที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยอมแพ้ไม่ได้โดยเด็ดขาด แม้วันนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเจอกับมรสุม แต่วันนี้ ไม่ต่างกับเมื่อ 20 ปีก่อน ในวัยเด็กที่ผมดู โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยิงประตูชัย ชนะบาเยิร์น มิวนิค ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ต่างจากเมื่อ 11 ปีก่อน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ กระโดดดีใจ หลังเซฟลูกยิงของ อเนลก้าได้ และชูถ้วยแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่รัสเซีย สำหรับผมนี่คือ “ศรัทธา พลัง และ ความหวัง” ที่ทำให้ผมรัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และรักในความเป็น “แดงเดือด”

นี่คือเกมฟุตบอลนัดหนึ่งที่พลพรรคปีศาจแดงต่างเฝ้ารอที่จะสัมผัสมัน และจะมีความสุขเสมอเมื่อได้ตะโกนเชียร์ทีมรักของพวกเราไปพร้อมๆกัน เหมือนที่ผมได้เชียร์พร้อมๆแฟนเพจ และแฟนแชนแนลยูทูป

เป็นธรรมดาที่ครอบครัว จะมีทั้งทุกข์ สุข น้ำตา และ รอยยิ้ม ซึ่งคุณไม่สามารถละทิ้งและเดินหนีจากมันไปได้ ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ” สโมสรที่รักของพวกเราก็เช่นเดียวกัน

#อ๋องแมนยูสู้ตาย

#แมนยูสู้ตาย #แมนยู #แมนยูไนเต็ด

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.