ในรอบเดือนที่ผ่านมาความสุขในการเชียร์ฟุตบอลของพวกเราเหล่าพลพรรคเร้ดอาร์มี่กลับมาอีกครั้ง หวังว่าทีมจะทำผลงานได้ดีต่อไป แม้บางที หนทางอาจมีอปุสรรคบ้าง แต่นั่นคือบททดสอบ ของการก้าวเดินไปข้างหน้า การเป็นผู้สนับสนุนทีม โปรดอย่ามองแค่เป้าหมายระยะสั้น แต่อยากให้ทุกคนมองระยะกลาง และ ระยะยาวด้วย อยากให้มองภาพรวม ทั้งคุณภาพนักเตะ การทำงานของสต๊าฟโค้ช การพัฒนาองค์กร ความเข้าใจแทคติก
รวมทั้งปัจจัยอื่นๆจากคู่แข่ง
สิ่งที่ผมเห็นถึงการเปลี่ยนเเปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ตลอด 10 นัดหลัง
1. เกมเพรสซิ่งอันยอดเยี่ยม ที่ไม่ได้บีบเเค่ต้นเกม แต่ใช้เกือบทั้งเกม
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามใช้เกมเพรสซิ่งมาโดยตลอดนับตั้งแต่เขาเข้ามาทำงาน แต่ในระยะหลังที่ผลงานดี ยูไนเต็ดใช้สิ่งนี้ได้เกือบจะตลอดทั้งเกม และพละกำลังนักเตะ ไม่ได้ตกลงไปมากนักเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกม ต้องให้เครดิตทั้ง ทีมงานฟิตเนส สต๊าฟโค้ช และนักเตะเอง การเพรสซิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่รวมแรงร่วมใจบีบพื้นที่ไปพร้อมๆกัน
2. กองกลาง มีสมดุลมากขึ้น เก็บบอลจังหวะสองได้เกือบตลอด
เนมันย่า มาติช และ เฟร็ด กลายเป็นคนละคนจากที่แฟนบอลคุ้นเคยเมื่อหลายเดือนก่อน ทั้งการเก็บบอล เข้าสกัด จังหวะพลิกเกม และการสอดประสาน ผมเชื่อแน่ว่า ไม่ใช่เเค่เฉพาะตัวนักเตะ แต่ข้อมูลจากทีมงานสต๊าฟ และการปลูกฝังจนเข้าใจว่า พวกเขาต้องทำอย่างไรในสนามเมื่อเจอสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลให้แดนกลางของยูไนเต็ด ไม่ใช่แดนกลางที่คู่ต่อสู้จะประมาทได้อีกต่อไป ถึงแม้บางเกม จะมีเปอร์เซ็น การครองบอลไม่สูงนัก แต่คุณภาพการเข้าทำและการจบสกอร์ คือสิ่งสำคัญที่สุดในการคว้าชัยชนะเพื่อแฟนๆ การฟิตกลับมาของ สก็อต แม็คโทมิเนย์ ยิ่งทำให้ เเผงมิดฟิลด์ ยืดหยุ่น และมีสไตล์หลากหลายเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ
3. กองหลัง สอดประสานกันดี มีตัวซ้อนเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นระบบกองหลัง 3 คน หรือ 4 คน ตอนนี้ ความเข้าขารู้ใจในการสื่อสาร ของเเผงเกมรับ ทำได้ดีขึ้นมาก โดยมี เเฮรี่ แม็คไกวร์เป็นผู้นำ คอยสั่งการเพื่อนๆ ความเข้าใจของแบ็คและ เซ็นเตอร์ รวมทั้งการช่วย Cover พื้นที่ของมิดฟิดล์ในด่านแรก ถือเป็นคีย์สำคัญในเกมรับที่ยอดเยี่ยมของ ยูไนเต็ด ทุกตำแหน่งมีนักเตะที่พร้อมจะเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริง และเกิดการแข่งขันขึ้นภายในทีม แบ็คขวา วาน-บิสซาก้า ดาโลต์ แบ็คซ้าย ชอว์ วิลเลี่ยมส์ เซ็นเตอร์ แม็คไกวร์ ลินเดเลิฟ ไบญี่ ตวนเซเบ้ ตัวเลขการเก็บคลีนชีท ไม่โกหกใคร 10 นัดหลังสุด เสีย 2 ประตู
4. เกมรุกมีมิติมากขึ้น ทั้งบอลยาว บอลสั้น ลูกตั้งเตะ และ การโจมตีจากด้านข้าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมาของ บรูโน่ แฟร์นานด์ส คือ จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในเเผงเกมรุก นอกจากเขาจะเล่นฟุตบอลด้วยจินตนาการ ความทุ่มเท และ เล่นเพื่อทีมมากกว่าตัวเองแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้การมาของบรูโน่ นำพากลิ่นอายของยูไนเต็ด ทีพลพรรคผีแดงคุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง คือความสุขในการเล่นฟุตบอล คุณต้องอย่าลืมว่า หากคุณทำอะไรด้วยความสุขนำมาก่อน รักและหลงใหลมันแบบเต็มสี่ห้องหัวใจไม่เเปลกที่คุณจะทำมันได้ดี การเล่นฟุตบอลของบรูโน่ ก็เช่นกัน การเข้ามาของโอเดียน อิกาโล่ และฟอร์มการเล่นที่เขาอยู่ในสนามแม้จะไม่นานนักในแต่ละเกม เพราะส่วนใหญ่จะต้อง รอโอกาสที่ม้านั่งสำรองก่อน ยิ่งทำให้ อองโธนี่ มาร์กซิยาล ต้องเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา ทางเลือกอื่นๆ ทั้ง มาต้า กรีนวู้ด เจมส์ ล้วนเป็นมิติใหม่ ในความหลากหลายที่พร้อมจะเปลี่ยนเกมได้เสมอ ทั้งเทคนิคของ มาต้า ความคมของกรีนวู้ด และ สปีดอันรวดเร็วของ เจมส์ โซลชาแสดงให้เห็นแล้วว่า เกมรับที่ดีที่สุด คือ การเล่นเกมรุกนั่นเอง
5. การเเก้เพรสซิ่ง ไม่เตะทิ้งเตะขว้าง ค่อยๆตั้งบอลขึ้นมา
หัวข้อนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างแท้จริงในช่วงเดือนที่ผ่านมา การแก้เพรสซิ่งจากคู่ต่อสู้นั้นไม่ง่ายเลย ในฟุตบอลระดับสูง แม้บางครั้งคุณต้องเตะทิ้งบ้างเพื่อความปลอดภัยในแดนหลัง แต่หากจังหวะไหน ผู้เล่นยูไนเต็ดมองว่าพอมีเวลาเล็กน้อย ในการค่อยๆ ตั้งบอลและโต้กลับได้พวกเขาจะทำ คีย์สำคัญของการแก้เพรสซิ่ง คือ การขยับหาช่องของผู้เล่นที่ไม่มีบอล และการจ่ายบอลในจังหวะที่พอดี และเพื่อนได้เปรียบ เมื่อนักเตะยุไนเต็ดแก้ ได้ 1-2 จังหวะ พื้นที่กลางสนามจะเปิดขึ้นทันที และพวกเขาจะสามารถเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็ว
Leave a Reply