โมร็อกโกที่หายไป

#โมร็อกโกที่หายไป

เอาจริงๆ … 20 ปีที่แล้วที่โมร็อกโกได้ผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นปีที่ผมเพิ่งดูบอลเป็นปีแรกในชีวิต ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.4

โมร็อกโกชุดนั้นคุมทีมโดย อองรี มิเชล อดีตกุนซือชาวฝรั่งเศส (ที่ไม่ได้คุมทีมฟุตบอลตั้งแต่ปี 2012) ส่วนกำลังหลักที่พอจะคุ้นชื่อ ก็มีดาวเตะอย่างนูร์เรดดิน เนย์เบ็ต กัปตันทีมเดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ในขณะนั้น

ส่วนสตาร์ผมยาวที่แจ้งเกิดในเวิลด์ คัพ และเป็นนักฟุตบอลคนแรกๆที่ผมคุ้นเคยคือ มุสตาฟา ฮัดจิ กองกลางเชิงสูง ซึ่งขณะนั้นเล่นให้กับ “ซูเปอร์เดปอร์” เช่นกัน

จากนั้นเพียงหนึ่งปี ฮัดจิก็มาสร้างความทรงจำให้กับแฟนบอลพรีเมียร์ลีกในยุคนั้นกับ “ช้างกระทืบโลง” โคเวนทรี ซิตี้ แถมยังหนีบ ยูเซฟ ชิปโป้ กองกลางอีกคนมาอยู่กับทีมด้วย ภายใต้การนำของ กอร์ดอน สตรัคคั่น

พูดตามตรงโคเวนทรี ซิตี้ก็เป็นทีมที่โด่งดังทีมหนึ่งในยุคนั้น แต่หลังจากตกชั้นไปเมื่อปี 2001 … พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย ทุกวันนี้ลงไปต่ำถึงลีก ทู (ลีกระดับ 4)

โมร็อกโก กลับมารอบนี้ให้พวกเราหายคิดถึง … ด้วยการพกอาวุธโหดคู่กายอย่าง “ฮาคิม ซิเย็ค” ดาวเตะจากอาแจ็กซ์ติดทีมมาด้วย

20 ปีผ่าน … จาก ฮัดจิ มาสู่ ซิเย็ค … ผมรู้สึกว่า โมร็อกโก ก้าวข้ามเจเนเรชั่นมา เพื่อมาเกิดใหม่อีกครั้งในฟุตบอลโลก

จะว่าไป ก็เหมือนกับบอกเราว่า เด็กอย่างเราในวันนั้น ตอนนี้ก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว

เพราะว่าตอนที่ ฮัดจิ โลดแล่นในฟร้องซ์ 98 … ฮาคิม ซิเย็ค มีอายุแค่ 5 ขวบเท่านั้นเองครับ …

#โมร็อกโก#ฟุตบอลโลก#ฮาคิมซิเย็ค#มุสตาฟาฮัดจิ#ฟุตบอลคลาสสิก

Dropballs

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.