แมนยู ถ้าเปลี่ยนโค้ชแล้วดีใจ ทำไมถึงยังวนลูป

ปัญหาสภาพจิตใจนักเตะ ประมาณ 40 %
ความผิดพลาด ทั้งขาดความเฉียบคมในเกมรุก
และประกบตัวในเกมรับ และปัจจัย อื่นๆ อีก 30%
การแก้ปัญหาของโค้ช เรื่องเเผน บางทีมีเเผนเดียว
การโค้ชชิ่ง การจัด 11ตัวจริง
การเเก้เกม ปัญหาเจาะ เวลาเจอคู่แข่งรับต่ำไม่ได้
อีก ประมาณ 30 % ในมุมผม

เราเปลี่ยนโค้ชมาแล้ว หลัง เซอร์ อเล็กซ์ รวมทั้งถาวร
ขัดตาทัพ และชั่วคราว

1. มอยส์
2. กิ๊กส์
3. ฟานกัล
4. มูรินโญ่
5. คาร์ริค
6. โอเล่
7. รังนิก
8. เทนฮาก
9. รุด
10. อโมริม

ลองมาหมด ทั้งหลัง 4 หลัง 3
คนทีเซอร์ อเล็กซ์ แนะนำ
ระดับอาจารย์ เจ้าเเเห่งปรัชญา
ระดับสเปเชี่ยลวัน ระดับลูกหม้อ
ปลุกปีศาจแดง ต้องใช้ปีศาจ
ระดับ แชมป์จากลีกอื่นๆ
และโค้ชอายุน้อย



9 คนใน 13 ปี ไม่เคยมีใครได้คุม
ถึง 3 ปีเต็ม แบบถาวร บ้าง
โอเล่ คุมชั่วคราว ธันวาคม 2018 – มีนาคม 2019
คุมถาวร มีนาคม 2019 – พฤศจิกายน 2021
เทนฮาก 2 ปี กับ 6เดือน
พฤษภาคม 2022 – พฤศจิกายน 2024

ในขณะที่ทีมอื่น ยืดหยัดตามแนวทาง
อดทนรอ แม้จะโดนกดดันช่วงแรก
ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยนัก จนขึ้นมา ลุ้นแชมป์ “ในขณะที่เรายังวนลูป”

ลิเวอร์พูล คล็อปป์ 2015-2024
เป็บ แมนฯซิตี้ 2016 – ปัจจุบัน
อาร์เตต้า อาร์เซน่อล 2019 – ปัจจุบัน

Edit เพิ่มเติมส่วนนี้ ที่ผมยกเป็บ กับคล็อปป์มา
เพราะทั้งคู่ได้เวลาทำทีม อย่างเต็มที่
และการสนับสนุนจากบอร์ดอย่างเต็มที่
แบบที่บอร์ดสัญญาไว้ ตลอดหลายซีซั่น
เขาได้ซื้อนักเตะตามตำแหน่งที่ต้องการ

ได้สร้างทีมของตัวเอง ส่วนเรื่องอันดับ
ถ้าดูแค่อโมริม ฤดูกาลที่แล้ว เขาเข้ามาคุมกลางฤดูกาล
ผลงานในลีกไม่ดีจริง แต่มันคือความยากในช่วงกลางซีซั่น
เหมือนตอนรังนิก ถูกมั้ยครับ

เป็บไม่ได้มากลางฤดูกาล
ซึ่งคล็อปปมากลางฤดูกาล

ถ้าจะวัด มาช่วงจบซีซั่น เทนฮาก ปีแรกได้อันดับ 3
ปีที่สองได้อันดับ 8 ได้แชมป์ 2 ปี ติด หลายคนยังไล่กันเลย
ที่ผมจะอธิบายประเด็นนี้ คือ โค้ชทุกคนควรได้เวลาสร้างทีมครับ



ถ้านับที่อาร์เตต้าด้วย ก็เหมือนกัน เขาค่อยๆ ล้าง นักเตะ
ในยุค เอเมรี่ จนเป็นยุคของเขา ใช้เวลาหลายปีนะครับ
และที่สำคัญ คุณต้องไม่ลืม ว่า ยุคที่เป็บขับเคี่ยวกับคล็อปป์ช่วงแรกๆ
ไม่ได้มีทีมแข็งเป็น 9-10 ทีมแบบในปัจจุบัน แทบจะเป็น Top Ten แล้ว

บวกความยากของพรีเมียร์ลีก ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีแค่
Top 4 หรือ Big Six ยังมีทีมระดับกลางค่อนมาบนอีกมากมาย
ที่พร้อมขึ้นมาแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์

ถ้าเปลี่ยนโค้ช แล้วดีจริง ก็คงจะต้องดีกว่าที่เป็นมา
แต่เหมือนจะดี เหมือนจะดี แล้วก็กลับไปวนลูปที่จุดเดิม เริ่มใหม่

ถ้าเปลี่ยนกลางฤดูกาลแล้วดี ก็คงไม่เห็น ช่วงพังๆ
ของรังนิก 6 เดือน และ อโมริม 8 เดือน ช่วงต่อเทนฮาก

ถ้าเปลี่ยน แล้วเจอคนที่ใช่ มันก็คงจะดีมากครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกคนก็คงอยากให้เห็นในทันตา
แต่เอาจริงๆ มันไม่ง่ายเลย

ไหนจะเรื่องกฏการเงิน ค่าชดเชย ค่าฉีกสัญญา
นักเตะที่โค้ชเก่าซื้อไว้ โค้ชใหม่ จะซื้อเพิ่ม
ตัวที่โค้ช ไม่ใช้ ที่เข้ากับระบบ และไม่เข้าระบบ

ยกตัวอย่าง หลังสามต้องมีวิงแบ็คที่เก่งมากๆ
ขึ้นสุดลงสุด เติมเกมดี เกมรับดี ครอสบอลดี

กองกลางสายพลังงานที่ออกบอลได้
ตัดเกมดี เเกะเพรสซิ่งเก่งๆ
แต่ตอนนี้ เรายังไม่มี

และที่ฟุตบอล ไม่เหมือนงานทั่วไปคืออะไรรู้มั้ยครับ
เวลามีปัญหาในองค์กร บริษัท ยังไล่พนักงานออกได้
หรือจะไล่ ผู้จัดการออกก็ได้
แต่กับฟุตบอล เราไล่นักเตะที่เล่นไม่ดีออกได้มั้ยล่ะ
แต่ผู้จัดการทีม คือคนที่โดนจัดการอยู่ตลอด

เรื่องเปลี่ยนโค้ชเป็นหน้าที่ของบอร์ดครับ
ถ้าบอร์ดยังไม่เปลี่ยน ก็แค่ยังต้องให้กำลังใจคนทำงานต่อ



ยูไนเต็ดอาจจะขายชื่อได้ ชื่อมีความยิ่งใหญ่
แต่ฟอร์มยังเล็กมาก ฐานแฟนบอลเยอะ
ความคาดหวังเยอะ ความกดดันเยอะ
ดูนักเตะที่ย้ายออกไป แต่ละคน แทบจะเล่นดี
ผลงานดีกันเกือบหมด ทั้งที่คือคนคนเดียวกัน
ซึ่งตอนอยู่แมนยู เหมือนเป็นคนละคน

สื่อส่วนใหญ่พร้อมจะพาดหัว ให้ข่าวขายได้ทุกเมื่อ
เพื่อเรียกยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดคนกดดู
ถ้าคุณหลงไปกับสื่อ ที่พร้อมจะด่า นักเตะที่ลงไปสู้ในสนาม
คนที่อยู่ข้างสนาม พยายามตะโกนสั่ง
เครียด กดดัน เต็มไปหมด

พูดง่ายๆ โค้ชแมนยูใหม่มา ตอนแรก หน้าตาสดใส
ผ่านไป 1ปี ผมเริ่มหงอก กันทุกคน มันก็น่าเห็นใจคนทำงานนะ

คุณต้องลองถามตัวเองดู
ว่าคุณจะเลือกให้ซัพพอร์ทใคร คนที่คุมทีม กับคนที่ลงไปสู้ในสังเวียน
หรือสื่อ ที่พร้อมจะ เขียนยังไงก็ได้ เพื่อ ได้กระแส
เวลาชนะก็ชมนักเตะเป็นส่วนใหญ่ แต่พอแพ้ ก็โทษโค้ชเหมือนเดิม

เรานั่งเก้าอี้ในบ้าน ที่พัก เชียร์ เปิดพัดลม เเอร์เย็นสบายมากๆนะครับ
แต่คนที่ลงไปวิ่งระดับ 9-10 กิโลเมตร ต่อเกม มันไม่ง่ายนะ
ไหนจะวางเเผน เตรียมตัว วิจารณ์ด่า มันง่าย ยิ่งมีโซเชี่ยลด้วย
ใครก็ทำได้ แต่ความกดดันที่เจอมันไม่ง่ายนะ

คาดหวังได้ แต่ต้องยอมรับ สิ่งที่ตามมา
ชนะก็ดีใจ เเฮปปี้ แพ้ก็หาจุดปรับ จุดแก้ไข
ให้กำลังใจ เดินหน้าต่อ

สุดท้าย แมนยู ก็คือ เหมือนแฟน หรือคนรัก ของคุณนะ

อาจจะหงุดหงิด บ้าง เวลาไม่ได้ดั่งใจ แต่สุดท้าย
คุณก็กลับไปหา และ อยู่เคียงข้างเหมือนเดิม

เว้นแต่คุณจะเปลี่ยนเเฟนบ่อยๆ หรือ เปลี่ยนทีมเชียร์ไปเลย
แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น และเชื่อว่า

” แฟนผี พันธ์แท้ ก็คงไม่ทำเหมือนกัน “

อ๋อง แมนยูสู้ตาย

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.