คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกลับมาพบกันอีกครั้ง การได้เห็นโรนัลโด้ และ เซอร์ อเล็กซ์ อยู่ในห้องด้วยกันนั้นช่างอบอุ่นหัวใจสำหรับพลพรรคปีศาจแดงทั่วโลก หลังจากที่ได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เฟื่องฟูจนประสบความสำเร็จร่วมกันในช่วงที่ดาวเตะชาวโปรตุกีสเล่นให้กับสโมสรเป็นครั้งแรกระหว่างปี 2003 ถึง 2009
ตั้งแต่ต้นจนจบในวิดีโอที่แฟนๆพลาดไม่ได้นี้ สามารถเห็นความชื่นชมและความรักที่มีให้ซึ่งกันและกัน ขณะที่เซอร์ อเล็กซ์ อธิบายว่าเขาช่วย โรนัลโด้ ให้สามารถใช้ชีวิตในแมนเชสเตอร์ได้อย่างไร ในตอนที่ยังเป็นปีกดาวรุ่งพุ่งแรง ขณะที่ตัวโรนัลโด้เอง ในช่วงนั้น ก็ยังสื่อสารภาษาอังกฤษได้ไม่ค่อยคล่องเท่าที่ควร
เซอร์ อเล็กซ์ เผย
“สำหรับการสื่อสารในงานของผม ในฐานะผู้จัดการทีม มันสำคัญมากในแง่ของการให้คุณค่ากับทุกคนที่เกี่ยวข้อง มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง หรือเฉพาะทีมงานของผม หรือแม้กระทั่งคนดูแลสนาม ผมคิดว่าความเป็นผู้นำและการสื่อสารนั้นเชื่อมโยงกันได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง ในกรณีของ คริสเตียโน่ เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่ม เมื่อเขามาสู่อ้อมกอดเรา ดังนั้นการทำให้เขารู้สึกสบายใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ”
“เมื่อโรนัลโด้ย้ายมาร่วมทีมใหม่ๆ เขาอาจไม่ใช่ขุมกำลังหลักที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ แต่แน่นอนว่าเขามีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม และในฐานะเด็กหนุ่มอายุเพียง 18 ปี ในตอนนั้นเขายังต้องเรียนรู้อีกมาก”
โรนัลโด้ เผย
“ลองนึกภาพว่าคุณอายุ 18 ปี คุณมาจากสปอร์ติ้งและเล่นกับนักเตะระดับซุปตาร์อย่าง กิ๊กส์, สโคลส์, คีน, โซลชาร์ ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เขาช่วยผมได้มากโดยการสื่อสาร บางครั้งเขาโทรหาผมที่สำนักงานพร้อมกับล่ามที่นั่น แต่ก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องบอกสิ่งต่างๆ ให้ผมฟังเพื่อช่วยให้ผมเติบโตขึ้นมาเฉกเช่นคนๆ หนึ่ง เหมือนผู้เล่นทั่วไป และตั้งแต่วันแรกที่เขาคอยพูดคอยสอนทุกอย่างกับผม ผมก็ทำมัน ดังนั้นผมรู้สึกซึ้งใจจริงๆ”
“ผมพูดเสมอว่าสำหรับผม เขาเปรียบเหมือนพ่อของผมในวงการฟุตบอล บางทีเขาอาจจะจำไม่ได้ แต่ผมพูดเพราะมันเป็นเรื่องราวที่สวยงาม วันหนึ่ง พ่อผมได้เข้าโรงพยาบาล และตอนนั้นรู้สึกแย่มาก และผมได้พูดคุยกับเขาและเขาก็พูดว่า คริสเตียโน่นายควรไปดูแลพ่อสักสองสามวันนะ ซึ่งตอนนั้นทีมของเรามีเกมที่ยากรออยู่ และผมเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมในช่วงเวลานั้น”
“เขาพูดว่า แน่นอนมันจะยากเพราะเรามีเกมที่ยาก แต่ฉันเข้าใจสถานการณ์ของนาย และนายสามารถไปหาพ่อของนายได้ สำหรับผมแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกเหนือจากการคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือคว้าแชมป์ถ้วยอะไรหลายๆ อย่าง ดังนั้นผมต้องขอบคุณเขาเพราะสิ่งที่เขาพูดกับผม เขาทำมันอย่างนี้เสมอ ผมต้องขอบคุณสิ่งนั้นจริงๆ”
พ่อของโรนัลโด้ เสียชีวิตในปี 2005 ด้วยวัยเพียง 52 ปี แต่ความทรงจำถึงความเห็นอกเห็นใจของผู้จัดการทีม ทำให้มั่นใจถึงความภักดีของโรนัลโด้ที่คงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
ในการพูดคุย เซอร์ อเล็กซ์ได้อธิบายต่อไปถึงแนวทางของเขาต่อสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนนั้นได้รับคำแนะนำจากประสบการณ์ที่เขาเคยประสบมาก่อนในอาชีพการงาน
“ครั้งหนึ่ง เคยมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาเคาะประตูออฟฟิศของผม วันนั้นเป็นวันอังคาร เขาบอกกับผมว่า บอส ผมขอลาหยุดวันศุกร์ได้ไหม? ผมจึงถามกลับไปว่า ทำไมต้องหยุดวันศุกร์ เขาตอบผมว่า คุณแม่ของผมเสีย เซอร์ อเล็กซ์ รำลึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เขาเคยพบกับตัวเอง
“คำตอบมาแบบนั้น ผมจึงตอบเขากลับไปว่า ได้แน่นอนเลยลูก และนับจากนั้นเป็นต้นมา ถ้ามีนักเตะคนไหนมาขอลาหยุดแบบกระทันหัน ผมจะตอบเขาไปทันทีว่า ได้สิ มีอะไรให้ช่วยไหม?”
“ในกรณีของ คริสเตียโน่ ฉันรู้ว่าพ่อของเขาป่วย” มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขาที่จะดูแลคุณพ่อ ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้น สโมสรฟุตบอลมันไม่สำคัญ”
“คุณต้องเข้าใจ บางสิ่งบางอย่าง ยิ่งใหญ่กว่าสโมสรฟุตบอล และครอบครัวก็เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยไม่มีคำถาม คุณไม่ควรเห็นสโมสรดีไปกว่าครอบครัว”
Leave a Reply