#ซิตี้ของเป๊ปไร้เทียมทานจริงหรือ?
ในมุมมองของคนดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบเป็นกลาง ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน จะรู้สึกได้เลยว่า แมนฯ ซิตี้ ในยุค ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ฤดูกาลนี้ ไร้เทียมทาน และ ยากจะหาทีมใดมาสู้กับพวกเขาได้
แต่ถ้ามุมมองแบบเข้าข้างตัวเองหรือเอาความรู้สึกส่วนตัวในการเชียร์ทีมคู่แข่ง ของ ซิตี้แล้วแหละก็ ต้องบอกว่าทุกคนคงคิดแบบเดียวกัน ซิตี้ คงจะต้องสะดุดบ้าง หรือ พลาดท่าให้กับทีมใดทีมหนึ่งในไม่ช้า
1. การครองบอล
ว่ากันด้วยสไตล์การทำทีมของเป๊ป สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ทีมของเขา ต้องควบคุมแดนกลางให้ได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เปอร์เซ็นต์การครองบอล แทบทุกนัดที่เจอคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นทีมกลางตาราง ท้ายตาราง หรือแม้กระทั่ง ทีมหัวตาราง การครองบอลของพวกเขา เหนือกว่าแทบทั้งสิ้น ปัจจัยสำคัญ อยู่ที่มิดฟิลด์ ตรงกลางของพวกเขา 3 คน คือ เควิน เดอบรอยน์ ดาบิด ซิลบา และ แฟร์นันดินโญ่ ทุกคนล้วนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง และรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร เดอบรอยน์ และ ซิลบา ทะลุทะลวง เข้าไปในพื้นที่สุดท้ายของคู่ต่อสู้ แจกจ่ายบอล ออกซ้ายขวา ป้อนบอลงามๆให้ กุน และ เฆซุส หรือแม้กระทั่งจบสกอร์ด้วยตัวเอง ลูกตั้งเตะ บอลจากแนวลึก ก็มีจากพวกเขาทั้งสองคนเช่นกัน ในทางกลับกัน แฟร์นันดินโญ่ คือ มิดฟิลด์ ที่ยืนหน้าแผงกองหลังคอยปัดกวาด ก่อนจะถึงคู่เซ็นเตอร์ อีกทั้งยังซ้อนตำแหน่งของแบ็ค และเชื่อมเกมได้ เวลาที่ทีมต้องการเกมรุก
2.การเติมเกมรุกด้วยแบ็ค
อีกปัจจัยที่สำคัญถ้าไม่นับตัวรุกด้านบน คือ แบ็ค ทั้งสองฝั่งของพวกเขา ไคล์ วอล์คเกอร์ ดานีโล่ ฟาเบียน เดลฟ์ หรือ เบนจามิน เมนดี้ ที่เจ็บยาว พวกเขาเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ เป็นแบ็คสไตล์เกมบุก ที่มีสปีดความเร็ว และ คอยสนับสนุนพื้นที่ด้านข้างเวลาขึ้นเกม ไม่น่าเเปลกใจที่ เป๊ป ใช้เงิน กับตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ในตำแหน่งแบ็คไปไม่น้อยเลยทีเดียว
3.แนวรุกตัวจี๊ด
ซาเน่ และ สเตอร์ริ่ง เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างของเกมรุกในแบบเป๊ป การที่เขามีแบ็คในสไตล์ที่เขาต้องการแล้ว เขายังมีตัวรุกริมเส้น ที่ลากเลื้อยได้ดี สปีดต้นจัด และยิงประตูได้คมอีกด้วย ในบางเกม เจาะตรงกลางไม่ได้ผล พวกเขาก็เลือกที่จะเปลี่ยนวิธีด้วยการเจาะทางด้านข้าง ทำชิ่ง และ ใช้การสนุบสนุนของแบ็ค เพื่อถ่างเกมรับ ของคู่ต่อสู้ ส่วนกุน กับ เฆซุส พวกเขาไม่ค่อยได้ลงเล่นพร้อมกันมากนัก ทั้งคู่ ไม่ได้รูปร่างสูงใหญ่อะไร ตรงกับสไตล์เน้นบอลบนพื้นของเป๊ป แต่ไม่ว่าใครจะลงสนาม ล้วนเป็นฝันร้ายของคู่ต่อสู้ แทบทั้งสิ้น
4.รูปแบบการเข้าทำ
เกมรุกที่หลากหลายในแบบเป๊ํป ทั้งการเจาะตรงกลาง การใช้ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น การยิงไกล ลูกตั้งเตะ หรือแม้กระทั่ง บอลแนวลึก และบอลจากด้านข้าง แฟนบอลอย่างเราๆ ได้เห็นกันหมดแล้ว ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกนี้ นี่ยังไม่นับจังหวะโชคช่วย บอลเป็นใจ ในวันที่พวกเขาเจาะไม่ได้ในอีกหลายๆเกม
5.การบีบพื้นที่
การตั้งเกมรุก และกดดันใส่คู่แข่งจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มี การบีบพื้นที่ ไล่ เพรสซิ่งที่ดี จนนำบอลกลับมาครองได้ด้วยความรวดเร็ว การบีบพื้นที่สไตล์เป๊ปนั้นเวลาไล่ พวกเขาจะไล่พร้อมกันทั้งหมด นักเตะมองไปที่ลูกบอล เพื่อพร้อมที่จะชิงจังหวะตัดบอลหากมีโอกาส ข้อดีของการมีผู้เล่นที่มีความเร็ว ส่งผลดีต่อการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก และ นำไปสู่สปีดเกมรุกที่คู่ต่อสู้ตั้งตัวไม่ทัน
พรีเมียร์ลีก ยังเหลืออีกครึ่งฤดูุกาล หรือประมาณ 5เดือนเศษ ซิตี่้ของเป๊ป จัดการทีมใหญ่ ระดับท็อปซิกส์ ไปหมดแล้ว ทั้ง ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซน่อล แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส มีทีมเดียวที่ได้ 1 แต้มจากพวกเขา คือ เอฟเวอร์ตัน ซิตี้ยังมีงานอีกครึ่งหนึ่งในช่วงเวลาที่เหลือ สถานการณ์ที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนเเปลงที่พอจะเป็นไปได้ คืออาการอ่อนล้า และ ระบบหมุนเวียนผู้เล่น ในช่วงโปรแกรม Boxing Day เข้าสู่ปีใหม่ การเจอทีมใหญ่ 5 ทีมอีกอย่างละนัด และ รถบัสเจ๋งๆ ของทีมระดับกลางตารางและท้ายตาราง ซึ่งหากมอง ณ วันนี้ ต้องบอกว่าโอกาสที่ซิตี้จะพลาดไม่ได้แชมป์ปีนี้ แทบไม่มี ถ้าพวกเขายังเล่นได้แบบที่พวกเขาทำได้ และ ตัวผู้เล่นไม่บาดเจ็บเยอะเกินไป ระดับมันสมองของเป๊ปที่มีบทเรียนแล้วจากฤดูกาลก่อน ที่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ แม้แต่ถ้วยเดียว เขาคงจะไม่พลาดอีกครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ตราบใดที่ฤดูกาลยังไม่จบ แต้มยังไม่ขาด แฟนบอลกองแช่งทุกทีมล้วนอยากเห็นซิตี้ ของเป๊ป พลาดแพ้บ้างก็ยังดี ซึ่งทุกอย่างที่เราไม่คาดคิดล้วนเกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล
Dropballs
Leave a Reply