5 กองหน้าแมนฯยูระดับตำนาน ที่นักเตะรุ่นหลังควรเอาเป็นแบบอย่าง March 30, 2019 dropballs นอกสนาม, ฟุตบอลต่างประเทศ 0 http://www.facebook.com/WordPresscom/posts/160005791617623 อันดับ 5 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกิดที่เมือง คริสเตียนซุนด์ ประเทศนอร์เวย์ เขาเริ่มเล่นฟุตบอลเป็นงานอดิเรกกับสโมสร คลาเซเนนเก้น ทีมลีกล่างในบ้านเกิด ก่อนโชว์ฟอร์มร้อนแรง ถูก โมลด์ ทีมในลีกสูงสุดดึงตัวไปร่วมทีม และได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ของนอร์เวย์ในวัยเพียง 22 ปี เท่านั้น ในปี 1996 อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่รอช้า ตัดสินใจ ดึงตัวโซลชามาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรในยุคนั้น โซลชาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมา จนสาวกเร้ดอาร์มี่ ตั้งฉายาให้เขาว่า เพชฌฆาตหน้าทารก หลังยิงประตูในลีกไป 18 ลูก พร้อมพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1996/1997 ช่วงเวลาต่อมายูไนเต็ดได้ เท็ดดี้ เชอรริงเเฮม เข้ามาเสริมทีมในฤดูกาล 1997/1998 และ ดไวท์ ยอร์ค ในฤดูกาล 1998/1999 ทำให้ระยะเวลานั้น ปีศาจแดงมีกองหน้าให้เลือกใช้งานถึง 4 คน คือ เเอนดี้ โคล ที่อยู่กับทีมตั้งแต่ปี 1994/1995 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เทดดี้ เชอริงเเฮม และ ดไวท์ ยอร์ค จนมีกระแสข่าวว่าโซลชาอาจย้ายออกจากทีม แต่ในที่สุด กองหน้าเพชฌฆาตหน้าทารก ตัดสินใจอยู่กับทีมต่อไปและกลายเป็นหัวหอกซุเปอร์ซับ เขามักจะชอบยิงประตูสำคัญได้บ่อยครั้งในฐานะตัวสำรอง แมตช์แห่งความทรงจำคือเกมที่เขายิงคนเดียว 4 ประตู ในเกมถล่มน็อตติ้งเเฮม ฟอเรสต์ 8-1 และอีกเหตุการณ์ที่แฟนบอลยูไนเต็ด ยุคนั้นจำแบบไม่มีวันลืมคือการยิงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ให้ทีมชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยส์ลีก ฤดูกาล 1998/1999 โซลชาเป็นนักเตะที่ยิงบอลได้ฉลาด เขามักจะรู้ว่าต้องยิงแบบไหนถึงจะผ่านผู้รักษาประตูได้ ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขานอกจากการลงมาเป็นซุเปอร์ซับ วาทะเด็ด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีคนบอกผมให้เล่นยั้งๆ เพราะเราไม่ต้องการประตูเพิ่มแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สไตล์ผม อันดับ 4 เวย์น รูนี่ย์ เวย์น รูนี่ย์ เกิดที่เมืองลิเวอร์พูล แต่เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับเอฟเวอร์ตันตั้งแต่เยาวชน จนขึ้นชุดใหญ่ในปี 2002 และอยู่กับเอฟเวอร์ตันได้เพียง 2 ปี ก็ถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาร่วมทีมในฤดูกาล 2004/2005 รูนี่ย์ขึ้นชื่อเรื่องความทุ่มเทและมุ่งมั่นอยู่เสมอเวลาลงเล่น เขาอยู่กับยูไนเต็ดรวมแล้วถึง 12 ฤดูกาล ยิงไป 253 ประตู ซึ่งเป็นนักเตะที่ยิงได้มากที่สุด ตลอดกาลของปีศาจแดงนับถึงเวลานี้ แซงหน้า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ที่ยิงได้ 249 ประตู รูนี่ย์มีความทรงจำมากมายกับยูไนเต็ด เขาเคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 5 สมัย แชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย แชมป์ ยูโรป้า ลีก 1 สมัย ที่สำคัญในชีวิตนักฟุตบอลของรูนี่ย์อยู่กับสโมสร เพียง 3 สโมสรเท่านั้น คือ เอฟเวอร์ตัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ดีซี ยูไนเต็ด สโมสรปัจจุบัน รูนี่ย์จัดว่า เป็นกองหน้าที่ยิงประตู ได้เฉียบคมเบอร์ต้นๆ ทั้งการยิงเต็มแรง การยิงเล่นทาง การวอลเล่ย์ และ ลูกฟรีคิก ถึงแม้ในช่วงอายุเยอะ เขามักจะชอบชิบบอลอยู่บ้าง แต่ก็ยังไว้ลายในการยิงประตูจนถึงปัจจุบัน วาทะเด็ด เวย์น รูนี่ย์ ผมทนเห็นลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จไม่ได้ ตอนพวกเขาได้แชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายผมยังเด็กมาก แต่ถ้าตอนนี้ผมเห็นพวกเขาได้แชมป์ มันคงยากที่จะทำใจได้ อันดับ 3 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เกิดที่ประเทศโปรตุเกส และเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ปี 2003 แมนยูไนเต็ด มีคิวอุ่นเครื่องปรีซีซั่น กับ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน ทีโปรตุเกส โรนัลโด้ ลงเล่นเป็นปีกซ้ายให้เจ้าถิ่น ปั่นป่วน จอห์น โอเช เเบ็คขวาของยูไนเต็ดในเกมนั้น เละไม่มีชิ้นดี จนเซอร์ อเล็กซ์ ต้องตาม ปีเตอร์ เคนยอน ซีอีโอสโมสรในตอนนั้น จากที่นั่งวีไอพี และบอกเคนยอนว่าเราต้องเซ็นสัญญาไอ้หนูคนนี้ ซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง 18 ปี ที่เล่นได้จี๊ดจ๊าด จนเเผงหลังยูไนเต็ด เปื่อยยุ่ย ถัดจากนั้น 5 วัน 12 สิงหาคม 2003 โรนัลโด้ เซ็นสัญญากับ ยูไนเต็ด และได้ เบอร์ 7 ไปครอง ช่วงแรกๆ ทีเล่นในพรีเมียร์ลีก เด็กหนุ่มมหัศจรรย์คนนี้ ปั่นป่วนเกมรับคู่ต่อสู้ทุกทีม แต่ข้อเสียคือเขามักจะติดเลี้ยง และ ไม่ค่อยเล่นเป็นทีมเท่าไร จน เซอร์ อเล็กซ์ ต้องคอยแนะนำและสั่งสอนอยู่ตลอด จนกลายเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เรารู้จักกัน นอกจากการยิงประตูที่เฉียบคมของโรนัลโด้เเล้ว เขายังมีสปีดต้นที่เร็วดั่งจรวด ลีลาการเล่นที่สวยงาม ยิงฟรีคิกแบบใหม่ด้วยบอลส่ายและมุดลงเร็ว และความสามารถพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย โรนัลโด้อยู่กับยูไนเต็ด 6 ฤดูกาล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย ก่อนย้ายไปตามความฝันที่ เรอัล มาดริด จนถึงยูเวนตุสในปัจจุบัน ถึงแม้อายุ จะ 34 ปีแล้ว แต่คุณภาพฝีเท้าของเขาไม่ได้ลดหลั่นลงเลย วาทะเด็ด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผมยังไม่เห็นใครที่จะมีความสามารถเหมือนผม ทุ่มเทเท่าผม และเป็นมืออาชีพแบบผม ไม่มีใครจะเทียบเท่าผมได้ ไม่มีใครจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้อีก ยังไงคุณก็ต้องเป็นตัวของตัวเองเหมือนที่ผมเป็นตัวของตัวเองจนถึงทุกวันนี้ อันดับ 2 เอริค คันโตน่า เอริค คันโตน่า เกิดที่ประเทศฝรั่งเศส และเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ โอแซร์ในปี 1983 คันโตน่ามีความเป็นศิลปินและมีอารมณ์รุนแรงบางครั้ง ทำให้ชีวิตนักฟุตบอลของเขาไม่ได้ราบรื่นมากนัก เขาเคยถูกลงโทษแบนจากพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งการฉีกเสื้อแล้วขว้างทิ้ง กล่าวโจมตีโค้ชออกโทรทัศน์ คันโตน่า พเนจรอยูในฝรั่งเศสหลายต่อหลายทีม จนมาทดสอบฝีเท้ากับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ และได้เซ็นสัญญากับลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 1992 และพาลีดส์เป็นแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งในปีนั้น คันโตน่า อยู่กับลีดส์ได้ไม่ถึงปี ก็ถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาร่วมทีมในราคา 1.2 ล้านปอนด์ เพราะตอนนั้นยูไนเต็ดกำลังคาดแคลนกองหน้าและทำประตูได้น้อย คันโตน่าปรับตัวกับยูไนเต็ดได้อย่างรวดเร็ว และทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และเขาก็ก่อเรื่องอีกครั้งด้วยการกระโดดทีบใส่แฟนบอล คริสตัล พาเลซ หลังเหตุการณ์นั้น เขาถูกศาลสั่งจำคุก 2 สัปดาห์ ก่อนจะอุทธรณ์และเปลี่ยนเป็นบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมแทน แต่ก็หนีไม่พ้นการโดนแบนจากการเล่นฟุตบอล 9 เดือนเต็ม ซึ่งตอนแรกคาดหมายว่า กองหน้าจอมอาร์ท จะยุติการค้าแข้งในวงการลูกหนังแล้วแล้ว แต่เข้าก็ใจอ่อนเพราะ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โน้มน้าวให้เขาอยู่ช่วยทีมต่อไป คันโตน่า เล่นฟุตบอลต่อจากนั้นได้ไม่นาน เขาก็ประกาศเเขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 30 ปี คันโตน่า คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกกับ ยูไนเต็ด 4 สมัย และ เอฟเอคัพ 2 สมัย เอริค คันโตน่า เป็นกองหน้าที่มีทริคการเล่นฟุตบอลที่สวยงามคนหนึ่ง ทั้งการเเก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในพื้นที่แคบๆ ทำชิ่งและยิงเเบบเหนือชั้น น่าเสียดายที่ คันโตน่า อยู่สร้างชื่อในสนามได้ไม่นานนัก ทำให้แฟนบอลยูไนเต็ดรุ่นหลังๆ อาจไม่ทันเห็นกองหน้าฝรั่งเศสรายนี้วาดลวดลายบนพื้นหญ้า วาทะเด็ด เอริค คันโตน่า ผมภูมิใจที่แฟน ๆ ยังคงเรียกชื่อผม แต่ผมกลัวว่าพรุ่งนี้พวกเขาอาจจะไม่ทำเช่นนั้น ผมกลัวเพราะผมรักมัน และทุก ๆ สิ่งที่คุณรัก คุณก็ต้องกลัวที่จะเสียมันไป อันดับ 1 รุด ฟาน นิดเตลรอย รุด ฟาน นิสเตลรอย เกิดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ รุดสร้างชื่อในลีกบ้านเกิดกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก่อนที่ยูไนเต็ดจะให้ความสนใจและเตรียมดึงตัวมาร่วมทีม แต่การประกาศย้ายทีมต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากในตอนนั้นสภาพความฟิตของรุดไม่เต็มร้อย และไม่กี่วันถัดมา เอ็นหัวเข้าเขาขาดระหว่างการฝึกซ้อม ทำให้ข้อตกลงถูกยกเลิกไป ก่อนทุกอย่างจะเสร็จสิ้นในปี 2001 รุดถือเป็นกองหน้าสไตล์จบสกอร์แบบโป้งเดียวจอด เมื่อเขายิงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากถึง 150 ประตู ใน 5 ฤดูกาลที่อยู่กับทีม เฉลี่ยคือ ยิง 30 ประตูในหนึ่งฤดูกาล นอกจากรุดจะเป็นนักเตะที่ยิงบอลได้คมแล้ว เขายังครองบอลได้ดี เลี้ยงบอลติดเท้า ลูกอากาศก็ไม่เป็นรองใคร และจุดเด่นอีกอย่าง ของรุดคือการยิงจุดโทษที่เฉียบคมเข้ามุมแทบทุกลูก ทำให้เขาถูกวางเป็นเพชฌฆาตสังหารจุดโทษของทีม ในช่วงปลายการค้าแข้งที่ยูไนเต็ดมีข่าวว่ารุดมีปัญหากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนถูกจับนั่งเป็นตัวสำรอง พร้อมทั้งมีข่าวออกมาตำหนิ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เรื่องหวงบอล เป็นเหตุให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน ในที่สุดเขาก็ย้ายไปเรอัล มาดริด หลังอยู่กับยูไนเต็ดมา 5 ฤดูกาล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย วาทะเด็ด ของ รุดฟานนิสเตยรอย เรื่องค่าตัวของผม ผมไม่หนักใจเลย มันทำให้ผมมีกำลังใจมากกว่า เพราะนี่หมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อใจผมเป็นอย่างมาก สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหล่าตำนานทั้ง5 ทำให้ได้รู้ว่า ความสำเร็จในฐานะกองหน้า ไม่ได้สร้างกันภายในวันเดียว ต้องใช้ทั้งความรัก ความพยายามฝึกซ้อม และ การทำงานหนักเท่านั้น ที่จะนำไปสู่คำว่ากองหน้าระดับพระกาฬได้ บางคนอาจจะอ้างว่าผมไม่มีพรสวรรค์ จะให้ทำอย่างไร แต่ถ้าคุณมีพรแสวง คุณก็สามารถเป็นสุดยอดกองหน้าแบบพวกเขาทั้ง 5 ได้เช่นกัน คนเรามีความพยายามเท่ากัน แต่ใช้ไม่เท่ากัน คำว่าไม่มีเวลา คือ ข้ออ้างที่สุภาพในการปฏิเสธ ความสำเร็จ ให้กำลังใจทัพปีศาจแดงกันต่อไป และ หวังว่าในอนาคตจะมีกองหน้าซักคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าระดับตำนานเหมือนพวกเขาได้ #อ๋องแมนยูสู้ตาย #Dropballs กองหน้าแมนยูคริสเตียโน่ โรนัลโด้ตำนานกองหน้าแมนยูรุด ฟาน นิสเตลรอยสุดยอดกองหน้าแมนยูเวย์น รูนี่ย์เอริค คันโตโน่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
Leave a Reply