#อเล็กซิสกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

” ขอออกตัวก่อนนะครับ บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว

หากไม่ถูกใจขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ”

 

ขอทายปฏิกริยาแฟนผีก่อนครับ น่าจะยิ้มกันเป็นแถบๆแน่นอน

จริงๆเกมเมื่อคืนก็ดูไม่น่าจะยากเกินไปอยู่แล้ว แม้ว่าเยโอวิล เจ้าบ้านจากลีกทู พยายามจะเปิดตำรามาสู้แค่ไหน ก็ต้านลำบาก

ผมขอชื่นชมลูกทีมของดาร์เรน เวย์อย่างหนึ่งครับ คือพวกเขาเน้นสู้เต็มที่ แต่สู้แบบเอาชนะใจแฟนบอลนะ พวกเขาไม่ได้เน้นเกมรับอุดอย่างเดียว

จังหวะที่มีลุ้นสวนกลับ หรือทำเกมไปจบสกอร์ได้ เขารีบทำเลย พยายามใช้จังหวะการเล่นให้น้อยที่สุด และให้บอลไปที่ ฟรังซัวส์ โซโก้ ศูนย์หน้าตัวหลัก

แต่เล่นไปเล่นมา “ปีศาจแดง” ที่วันนี้มี ไมเคิ่ล คาร์ริค คุมแดนกลาง ก็เริ่มจับจังหวะการเล่นของตัวเองได้ เช่นเดียวกับการคายบอลไปที่ อเล็กซิส ซานเชซ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเกม

หนึ่งเลย สิ่งที่เราไม่เห็นกันมานานคือ วิธีการโฮลด์บอลของคาร์ริค กับการจ่ายจังหวะยากๆจากแนวลึก ซึ่งเราไม่ได้เห็นกันมานานมาก

อย่างไรก็ตาม ด้วยวัยใกล้แขวนรองเท้าเต็มทน อดีตดาวรุ่งเวสต์แฮม ค่อนข้างเชื่องช้าเมื่อโดนเพรส ซึ่งชัดว่า ถ้าหนีบ “น้าปลัด” ไปเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สปีดเร็วดั่ง Fast 8 คิดว่าน่าจะยากไปแล้วในเวลานี้

แฟน “ปีศาจแดง” ยังดูสนุกทุกครั้งเมื่อบอลไปถึงเท้าของ อเล็กซิส เราได้เห็นเทคนิคการเล่นกับบอลในสไตล์ละติน ที่ต้องยอมรับว่า ทีมไม่ค่อยมีนักเตะแบบนี้มานานมากแล้ว

คิดเร็ว ทำเร็ว ไม่กลัวถ้าเจอคู่แข่งมารุมกินโต๊ะ … เกมเมื่อคืน เขาสามารถพลิกหลบคู่แข่งที่เข้ามาถึงสามคนได้สบายๆ

ปัญหาของเขาเมื่อคืนอยู่ที่การจ่ายบอลไม่ตรงเพื่อน … แต่เข้าใจว่าเป็นเกมแรก เพื่อนร่วมทีมต่างหากที่ยังตามไม่ทันความคิดของเขา ของแบบนี้ต้องซ้อมด้วยกันเยอะๆ

แต่ฟุตบอลเดี๋ยวนี้เล่นกันด้วยสมองมากกว่าเดิมครับ นักเตะที่เหนือชั้นต้องกล้าให้บอลยากๆ และคิดเร็ว ทำเร็ว กล้าตัดสินใจในช็อตบอลที่เป็นประโยชน์ต่อทีมมากที่สุด

อีกจุดที่ชอบสำหรับแข้งทีมชาติชิลีคือไม่ได้ยืนประจำแค่ตำแหน่งเดิม หลายครั้งที่เขาชอบตัดเข้าในและไปเล่นกับเพื่อนที่อยู่ฝั่งขวา เล่นเอาแนวรับ เยโอวิล หัวหมุนไปรู้จะรับมือเขาอย่างไรดี

ลักษณะคล้ายๆกับ เอเด็น อาซาร์ เวลาที่เล่นกับเชลซี เขาประจำทางฝั่งซ้ายก็จริง แต่ไม่ค่อยชอบอยู่กับที่ เล่นแบบนี้โค้ชบางคนชอบครับ ขึ้นอยู่กับว่า โจเซ่ มูรินโญ่ มอบหมายหน้าที่ให้ อเล็กซิส ไว้อย่างไร

แต่เท่าที่ฟังบทสัมภาษณ์ “น้ามู” เหมือนจะให้อิสระ อเล็กซิส ค่อนข้างมาก … เขาต้องการผู้เล่นมาเติมแต่งจินตนาการ การเคลื่อนเกมรุก “ปีศาจแดง” ที่ช่วงหลังตื้อตันเสียเหลือเกิน

สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เจสซี่ ลินการ์ด ก็เป็นอีกสองคนที่โตขึ้นมากครับ

ดาวเตะร่างสูง เป็น “เด็กปั้น” ที่มูรินโญ่ให้โอกาสเวลาถึงคิวเกมบอลถ้วย … จุดเด่นของ “แม็คกี้” ที่ผมคิดว่าเขามีเลยคือเซนส์บอลครับ อย่างน้อยเมื่อยามไม่มี ปอล ป๊อกบา เขากล้าให้บอลยากๆกับเพื่อน คือแม้จะอายุเพียง 21 ปี แต่วิสัยทัศน์การเล่นของเขาน่าสนใจมาก

ผมคิดว่า มูรินโญ่ กำลังลบคำสบประมาทของแฟนบอลหลายคน ที่กล่าวหาเขาว่า “ปั้นเด็กไม่เป็น” ผลผลิตก็มาจากเจ้าแม็คกี้นี่แหละครับ เต็มๆ

ขณะที่ เจสซี่ ลินการ์ดเอง อาจได้ขึ้นชุดใหญ่ในยุค หลุยส์ ฟาน กัล แต่จอมแด๊บหมายเลข 2 ก็เพิ่งจะยกระดับการเล่นของตัวเอง ในยุคของมูรินโญ่

ลูกที่สามที่ยิงเมื่อคืนชัดครับ คือเขาเล่นด้วยความมั่นใจ พาบอลไปเอง และเลือกช็อตยิงเองได้อย่างพอดิบพอดี แถมทักษะการจบสกอร์ดีขึ้นเยอะกว่าเมื่อก่อน

จากดาวรุ่งที่ลงมาแล้วแทบจะหวังผลอะไรไม่ได้ ตอนนี้ความเห็นของผม ถ้าลินการ์ดยังรักษาฟอร์มการเล่นระดับนี้ไว้ได้ เขาดีพอที่จะสร้างช่วงเวลาของตัวเองในเวิลด์ คัพ 2018 กลางปีนี้ครับ

คนเดียวที่ยังน่าเป็นห่วงจริงๆมีแค่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เท่านั้นเอง

ผมว่าเขาตกอยู่ในสภาวะเดียวกับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ก่อนย้ายออกไป คือขาดความมั่นใจ และยังมีปัญหาเรื่องเดิมๆ เรื่องใหญ่ที่สุดของเขาคือ “การตัดสินใจในจังหวะสำคัญ”

เจ้าแรช ต้องไปฟื้นฟูด้านจิตวิทยาเต็มๆแล้วครับ เช่นเดียวกับทัศนคติการเล่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกับการยืนระยะในวงการนี้

เขาอาจต้องซ้อมร่วมกับ อเล็กซิส มากๆครับ เรียนรู้วิธีการเลือกช็อตการเล่นของอดีตแข้งอาร์เซน่อล

เพราะเอาจริงๆ ใครๆก็รู้ว่าเขามีของ ทั้งความเร็ว , ความขยัน รวมถึงการหาพื้นที่ เพียงแต่เซนส์การจบสกอร์ และการเล่นเป็นทีม ขอแค่ปรับให้เข้าที่ แรชฟอร์ดก็จะ “พึ่งพาได้” เหมือนกับเพื่อนๆครับ

แต่เอาจริงๆ วัยนี้เป็นวัยแห่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าจะรีบปรับ ต้องปรับให้เร็วครับ ไม่อย่างนั้น มันจะไปอีกทาง กู่ไม่กลับเลย

เราเห็น ธีโอ วัลค็อตต์ , ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ และ แอร่อน เลนน่อน เป็นตัวอย่างมาแล้วครับ… ภาวนาอย่าให้ แรชฟอร์ด เป็นแบบนั้นนะ

#NatNarinpaj

Dropballs