#วางตัวแบบพี่ตี๋ – สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
ผมอาจจะเข้ามาเป็นนักข่าวช้าเกินไป … เพราะช่วงที่พี่เขายังเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่ง แล้วชื่อ “โกสินทร์” ผมยังคงเรียนหนังสืออยู่
พี่เขาไม่ได้ใช้ชีวิตแบบผาดโผน หรืออยู่ในกระแสมากนัก … เพียงแต่ทุกครั้งที่สวมถุงมือลงสนาม ทั้งในนามทีมชาติและสโมสร … เขาทำเต็มที่
ลีลาการเซฟอาจไม่จำเป็นต้องพุ่งเป็นซูเปอร์แมน … เพียงแต่คุณสมบัติจริงๆที่ผู้รักษาประตูต้องมีคือ “ความเป็นผู้นำ” …
พี่เขามีสิ่งนั้นชัดมาก
ไม่ใช่เพียงแต่ในสนามเท่านั้น … แต่นอกสนามด้วย…
ช่วงที่ผมเริ่มเข้ามาในวงการข่าว … พี่เขาเปลี่ยนชื่อได้พักหนึ่งแล้ว … และเขาก็ไม่ได้อยู่สังกัด ชลบุรี เอฟซี ที่สร้างชื่อให้กับเขา… จากภาคตะวันออก … เขาย้ายมาอยู่ภาคกลางใกล้กรุงเทพฯ อย่าง สุพรรณบุรี
และเช่นกัน… พี่เขาก็ไม่ใช่ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติแล้ว…
แต่ทุกครั้งที่ผมไปทำข่าวทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ… ไม่เคยเลยซักครั้งที่ผมจะไม่เห็นพี่เขา…
ทุกครั้งที่เดินผ่านสื่อ … พี่เขาจะยิิ้มให้เสมอ และเวลาให้สัมภาษณ์ ก็จะตอบทุกคำถามด้วยความจริงใจ … พยายามที่จะสื่อไปให้ถึงแฟนบอล
ในแคมป์… เท่าที่ผมเห็น … พี่เขามักจะเป็นที่ปรึกษา และดูแลน้องๆอยู่เสมอ … แม้จะไม่ได้ลงเล่นในสนาม …
แต่ความจริงของ “ทีมฟุตบอล” อย่างหนึ่งคือ … คุณใช้เวลากับการลงเล่นแค่ 90 นาที … แต่ความผูกพันในการซ้อม อยู่ด้วยกันเป็นทีม … คุณใช้เวลามากกว่า 1 เกม … มากกว่า 1 วัน … มากกว่า 1 เดือน … และมากกว่า 1 ปี
และสำหรับพี่เขา … มันคือ 14 ปี…
14 ปีที่ผมมักจะเห็นสิ่งที่คุ้นเคย … เวลากลุ่มนักฟุตบอลทีมชาติเดินมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถาน … ผ่านนักเตะมากี่ยุค กี่รุ่นไม่ซ้ำหน้า แต่ภาพของนายทวารผมเรียบแปล้ หน้าตาคมเข้ม … มันคุ้นชินกับความทรงจำของผมมาตลอด
ไม่ง่ายทีี่คุณจะมาติดทีมชาติ … ไม่ง่ายที่คุณจะติดทีมชาติให้นาน … แต่ที่ยากที่สุดคือ การติิดทีมชาติและวางตัวให้ดีด้วยเวลายาวนานถึง 14 ปี
แม้จะมีโอกาสลงเล่นไม่มาก แต่พี่เขาบอกกับรุ่นน้องว่า “ขอให้ดูอย่างพี่ ขอให้ใจสู้อย่างพี่ พี่อายุขนาดนี้ พี่ยังซ้อมเต็มที่ เพื่อหวังจะได้ลงเล่น”
“แม้โอกาสของทุกคนจะมีมากหรือน้อยต่างกัน แต่สำหรับพี่ พี่พร้อมตลอด พี่พร้อมสำหรับโอกาสที่จะเข้ามาเสมอ”
คำพูดเหล่านี้คือเหตุผลครับ ว่าพี่เขาสำคัญสำหรับห้องแต่งตัวของทีมชาติไทยมากน้อยเพียงใด
จากนี้แฟนบอลคงไม่ได้เห็นภาพที่คุ้นเคยอีก… สื่อคงไม่ได้หยอกล้อกับพี่เขาในแคมป์ทีมชาติอีก
แต่ก็นั่นแหละครับ… ทุกงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา … แต่เรามักประทับความทรงจำของงานเลี้ยงนั้นไว้ในประวัติศาสตร์
และสำหรับเขา มันคือเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก กับอีกหนึ่งทีมชื่อดังของโลกอย่าง “ออสเตรเลีย”
14 ปีของพี่เขา สำหรับผมมันคือความยิ่งใหญ่ … และยากที่ใครจะมาลอกเลียนหรือทำได้เหมือน …
“#ที่สุดของการเล่นฟุตบอลคือการรับใช้ทีมชาติไทย ไม่ว่าคุณจะได้กี่แชมป์มากับสโมสร แต่การเล่นให้ทีมชาติไทยคือเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจที่สูงที่สุด”
ด้วยความสัตย์จริงครับ … ภาพของพี่เขาในการเล่นให้กับสโมสร มันก็ไม่ชัดในความคิดผมเหมือนกัน
แต่ภาพของเขาเวลารับใช้ทีมชาติ … มันจะอยู่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลไทยไปตลอดกาล
“สินทวีชัย หทัยรัตนกุล”
Dropballs
Leave a Reply