วันที่เสืออ่อนเเอ บาเยิร์น มิวนิค ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิมจริงหรือ ?

แม้จะคว้าแชมป์ เดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ ได้อย่างเฉียดฉิว แต่มหาอำนาจฟุตบอลเยอรมัน ยังเปิดเผยแผลฉกรรจ์ให้เห็นหลายจุด

พวกเขาส่อเค้าอาการไม่ดีตั้งแต่ช่วงต้นปรีซีซั่น ที่เก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียว และแพ้ถึง 4 เกม …

เพราะเหตุอันใด จึงทำให้ “บาเยิร์น มิวนิค” มีทรงบอลที่ไม่น่ากลัวเหมือนก่อน และมีสิทธิ์บัลลังก์สั่นคลอน หากไม่ปรับแก้อะไรสักอย่าง

Dropballs นำข้อสังเกตต่างๆมาฝากกันครับ

1. #ฟุตบอลสปีดต่ำ

บาเยิร์น มิวนิค ไม่เคยกลัวคู่แข่งที่อ่อนกว่าและตั้งหน้าตั้งตามาอุด เพราะพวกเขาเป็นทีมที่ครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว แต่พวกเขาจะกลัวทีมที่โต้กลับเร็วและเพรสซิ่ง

“เสือใต้” หมอบไม่เป็นท่ามาแล้วเมื่อเจอทีมที่โต้กลับได้น่ากลัวที่สุดเวลานี้อย่าง ลิเวอร์พูล …

จุดน่าสนใจคือสองแนวรับอย่าง มัตต์ส ฮุมเม่ลส์ และ ฆาบี้ มาร์ติเนซ ไม่ใช่แนวรับที่มีความคล่องตัว … ปีเตอร์ บอสซ์ กุนซือคนใหม่ดอร์ทมุนด์อ่านขาด สั่งลูกทีมมาเพรสซิ่งสูงแดนบนจน มาร์ติเนซ พลาด ส่งผลให้
ดอร์ทมุนด์ได้ประตูขึ้นนำ

บาเยิร์นเวลานี้ยังเป็นเสมือนเรือลำใหญ่ แต่ใบพัดใหญ่และช้าเกินไป ฉะนั้นหากมีอุบัติเหตุข้างหน้า อาจหักหลบไม่ทัน …

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีตัวเลือกคื่อ นิคลาส ซือเล่อร์ แนวรับตัวใหม่ที่ไปดึงมาจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์

ซือเล่อร์ มีทั้งความสูง และความคล่องตัวสมกับคุณสมบัติแนวรับยุคใหม่ และหาก มาร์ติเนซ กับ ฮุมเม่ลส์ ยังพลาดอยู่บ่อยๆ ดาวเตะวัย 21 ปี อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

2. #ร็อบเบอรี่โรยรา

ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา … หนึ่งในกลยุทธ์ที่บาเยิร์น ใช้ในการเจาะฝ่ายตรงข้ามมาตลอด คือการใช้ ฟร้องค์ ริเบรี่ และ อาร์เยน ร็อบเบน ในการเลี้ยงจี้พื้นที่ริมเส้นฝั่งตรงข้าม

ปีกทั้งสองรายรักษาสภาพร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม … อย่างไรก็ตามตัวเลขอายุก็ไม่เคยโกหกใคร … เมื่อในขณะนี้ ริเบรี่ อายุ 34 ปี และ ร็อบเบน อายุ 33 ปี

เมื่อมองไปยังม้านั่งสำรอง เราจะพบเพียง คิงสเล่ย์ โกมัน ที่เป็นเหมือนราฮีม สเตอร์ลิ่งร่างแรก … มีแต่ความวูบวาบ แต่หาความแน่นอนอะไรไม่ได้

โทมัส มุลเล่อร์ และ ฮาเมส โรดริเกซ สามารถเล่นริมเส้นขวาได้โดยไม่เคอะเขิน กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งคู่ไม่ใช่ “ปีก”

หากไม่ซื้อปีกเพิ่ม … ทางเลือกของบาเยิร์น อาจเป็นการใช้แบ็ก (หรือวิงแบ็ก) โจมตีทางริมเส้นแทน ซึ่งขณะนี้ราฟินญ่า และ โจชัว คิมมิช มีความสดและเข้าใจเกมมากพอ

แต่ด้วยความสัตย์จริง หมดเวลาที่บาเยิร์นจะพึ่ง “ร็อบเบอรี่” อย่างเต็มตัว เวลาของพวกเขาใกล้หมดลงแล้ว

3. #ดึงศักยภาพมิดฟิลด์สายเลือดใหม่

พื้นที่การเสริมทัพที่ชัดที่สุดของบาเยิร์น มิวนิค คงจะเป็นแผงแดนกลาง ที่ซัมเมอร์นี้พวกเขาได้ลายเซ็นของ โกแร็งแต็ง โทลิสโซ่ มาจากลียง และ เซบาสเตียน รูดี้ มาจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์

สื่อเยอรมันยกย่อง รูดี้ ว่ามีส่วนผสมระหว่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม และ ชาบี้ อลอนโซ่ … เขาสามารถเล่นได้ทั้งแบ็กขวา และ มิดฟิลด์ตัวรับคุมจังหวะเกม

ขณะที่ โทลิสโซ่ เด่นกว่าเรื่องเทคนิคเฉพาะตัว และการสอดทะลุเข้าไปทำประตู แต่หากให้ยืนกลางสนาม ตัวเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

ยังไม่รวม เรนาโต้ ซานเชซ ซึ่ง บาเยิร์น ยังแทงกั๊กว่าจะปล่อยให้ทีมอื่นดีหรือใช้ต่อไป

คาร์โล อันเชล็อตติ อาจไม่สนใจจุดอื่นที่โรยรา เขาสนใจคนที่จะมาทดแทน อลอนโซ่ และ ลาห์ม ที่อำลาทีมไป

กองกลางของบาเยิร์นชุดใหม่ สามารถหยิบมาใช้ได้คุ้มราคาทุกคน ปัญหามีเพียงอย่างเดียว คือ “อันเช่” จะทำอย่างไรเพื่อดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของแต่ละคนออกมาใช้ก็เท่านั้น…

Dropballs